จริงๆ บล๊อกตอนนี้ ผมกะเขียนให้ทันช่วงที่เค้ากินวอกัน แต่พอดีผมเกิดอุปสรรคในการดำเนินชีวิตเล็กน้อย จึงต้องดองและเลื่อนมาเป็นช่วงนี้แทน… แต่ก็เอาเถอะครับ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
คำว่ากินวอเนี่ย ผมเริ่มได้ยินครั้งแรกตั้งแต่ผมทำงานปีที่แล้ว แต่กว่าที่ผมจะเข้าไปสัมผัสและเรียนรู้มันก็ผ่านไปปีนึงเต็ม
ว่าด้วยการกินวอ
ที่แน่ๆ กินวอเนี่ย มันไม่ใช่การไปกินไอติมวอลล์หรอกนะ แต่มันเป็นงานฉลองปีใหม่ของพี่น้องชาวมูเซอครับ ปีนึงเค้าก็จะจัดกันครั้งนึงครับ พี่น้องชาวมูเซอเค้าไม่ได้มีปฏิทินเป็นการส่วนตัว เค้าก็จะอ้างอิงกับปฏิทินของเรา โดยจะมีผู้นำหมู่บ้านแต่ละที่ละแวกอำเภอฝาง-แม่อาย-ไชยปราการมาตกลงกันว่าเมื่อไหร่ดี ซึ่งปีนี้เค้าจะจัดกันตั้งแต่วันที่ 13-19 มกราคม 2556 ครับ
ใช่ครับ งานกินวอเค้าจัดกันเจ็ดวันเจ็ดคืนครับ ซึ่งแต่ละวันนี่ก็มีกิจกรรมไม่เหมือนกันเท่าไหร่นะ ผมจำได้แค่คร่าวๆ อย่างเช่น วันแรกเป็นวันเตรียมงาน, วันที่สองเป็นวันที่เค้าจะไปไหว้พ่อแม่กัน, วันที่สี่เป็นวันผู้หญิง (คือให้ผู้หญิงหลั่นล้า แล้วผู้ชายทำครัวแทน), วันที่ห้าเป็นวันผู้ชาย (วันนี้ผู้ชายเค้าจะมีเล่นลูกข่างยักษ์กัน), ส่วนวันอื่นๆ จำไม่ได้ครับ

ซึ่งหมู่บ้านที่จะไปนี่คือบ้านห้วยม่วงครับ ที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอแม่อายนี่แหละ ฮี่ๆๆๆ โดยเจ้าภาพงานนี้ก็คือพี่หนูนา (ต้องขอบคุณพี่เค้าจริงๆ) เริ่มตั้งแต่อาศัยรถพี่เค้ามารับจากพื้นราบแล้วขับขึ้นทางดอยดินลูกรังมาให้ถึงบ้าน (จริงๆ ทางก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นต้องใช้รถโฟร์วีลโอนลี่นะ ผมยังเห็นยาริสขึ้นมาได้เลย แต่อาจต้องชำนาญทางหน่อย), พามากินข้าวที่บ้านพี่เค้า ซึ่งทางครอบครัวพี่เค้าทำเลี้ยงต้อนรับพวกเรา, รวมทั้งพาไปยังสถานที่จัดงานด้วย (พาไปสองหมู่บ้านแหนะ)
View กินวอ in a larger map

เอกลักษณ์ของงานนี้ก็คือการทำข้าวปุกงากินกัน ,, ซึ่งข้าวปุกเนี่ยเค้าทำจากข้าวเหนียว+งาผสมกัน แล้วค่อยๆ ทุบๆๆๆ จนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเค้าก็เอามาปั้นเป็นก้อน ถ้าตามหลักสแตนดาร์ดเค้าเอามาจิ้มกินกับนมข้นหวาน, น้ำตาล และน้ำผึ้งป่า แต่ผมว่ามันเลี่ยนไปหน่อย เลยแหวกแนวเอามาจิ้มกับน้ำพริกหนุ่ม ให้อารมณ์คล้ายๆ กินข้าวเหนียวกะน้ำพริก แต่หยุ่นๆ กว่า ลงตัว+ตัดเลี่ยนดีนะ (แต่รู้สึกว่าทั้งหมู่บ้านมีผมกินแบบนี้อยู่คนเดียวเอง)





นอกจากข้าวปลุกงาพี่หนูนาก็ยังเตรียมอาหารถิ่นเค้าอีกเยอะ ทั้งยำวุ้นเส้น, ผัดผัก, ยำปลา, ฯลฯ ซึ่งของที่นี่สดมากๆ เว้นจะมีซุ้มนึงที่มีหมูหั่นเป็นชิ้นยาวๆ เอาวางไว้ เห็นเค้าบอกว่าเป็นพิธีอะไรของเค้าทั้งนี่แหละ ซึ่งมันก็เหมือนเป็นการถนอมอาหารไปด้วยกรายๆ





นอกจากรบกวนเรื่องอาหารที่บ้านพี่หหนูนาแล้ว เรายังแอบรวบกวนยืมชุด+ออพชั่นอื่นๆ ของพี่เค้ามาใส่ด้วย (ซึ่งพี่เค้าไม่มีหวงเลย) ราคาพวกนี้ไม่ใช่ธรรมดานะครับ อย่างเข็มขัดเงินเส้นนึงสามหมื่น, เสื้อกั้กที่ไม่มีพวกเงินประดับนี่ตัวนึงประมาณห้าพัน, กระเป๋าใบละสามพัน ,, ส่วนไอ้ชุดที่มีอะไรประดับเนี่ย ราคานี่ขึ้นไปโฮกเลย อย่างตัวที่ไฮโซที่สุดนี่เท่าที่เห็นมีประดับเยอะๆ เนี่ย ที่ลองนับดูมีเหรียญเล็ก 30 เหรียญ ตกเหรียญละ 800 บาท, ตุ่มเม็ดเล็กๆ อันละ 30 บาท มีพันเม็ด, เหรียญใหญ่อันละพันห้า มีอยู่เจ็ดเหรียญ ,, นี่คิดไปคิดมาเกือบหกเจ็ดหมื่นเลย (ยังไม่ได้รวมผ้าถุงเลยนะ….)

ค่าครองชีพเค้าแพงกันจริงๆ
ออกไปเต้นจะคึๆ
อ่านแบบใจเย็นๆ นะครับ เราจะไปเต้นจะคึกัน (ไม่ใช่อิคึๆๆ) ซึ่งการเต้นนี่ก็เป็นการเต้นฉลองปีใหม่ของเค้า ก็จะประมาณเต้นรอบซุ้มหัวหมู+เครื่องใน โดยจะมีคนนำ+ตีกลองให้จังหวะ เราก็ไปเต้นตามเค้า มีทั้งจังหวะกระโดดขาเดียว, หมุนตัว, เตะเท้าไปข้างหน้า, แกว่งขาไปด้านหลัง ฯลฯ ซึ่งความ advance ของท่านี่ก็แล้วแต่คนนำเลย บางทีก็เป็นระดับเบสิกๆ เราดูเค้าเต้น 2-3 รอบเราก็เข้าไปเนียนกับเค้าได้แล้ว แต่บาง pattern นี่อยากบอกว่ายากมาก (มันจะมีท่านึงทีต้องกระทืบพื้นอะ อันนี้ยากมาก) ทำตามไม่ได้จริงๆ
แต่ละหมู่บ้านเค้าก็จะจัดการเต้นจะคึประจำหมู่บ้าน หมู่บ้านไหนคนไม่เยอะก็เต้นกันวงเดียว มีคนนำเต้นคนเดียว ,, แต่ถ้าหมู่บ้านไหนมีคนเยอะๆ นี่จะมีหลายวงเลย ทั้งวงวัยรุ่น วงผู้สูงอายุ เต้นกันในจังหวะ, ท่า และความเร็วที่แตกต่างกัน แต่เท่าที่ดูแต่ละคนในแต่ละวงก็สนุกสนานไม่แพ้กัน
แต่ที่แน่ๆ เหนื่อยโฮกๆๆๆๆ แม้ว่าอากาศข้างนอกจะประมาณสิบห้าองศา แต่ว่าผมก็เหงื่อแตกเต็มทั้งตัวยังกะตกน้ำมาเลย (ผมว่าคนนำเต้นเค้าฟิตมากเลยนะ ทั้งเต้น ทั้งเล่นเครื่องดนตรี ไม่มีเหนื่อย)







นอกจากเต้นจะคึกัน เราก็ยังทำกิจกรรมแจกขนม+ของให้กับเด็กๆ กันด้วย โดยเราจัดให้แข่งเหยียบลูกโป่งให้รางวัลกันด้วย ทีแรกก็เพลินๆ น่าสนุกดี แต่หลังๆ นี่ดูไปดูมาผมว่าไม่ค่อยเหมือนเหยียบลูกโป่งเท่าไหร่หรอกนะ มันคล้ายๆ เป็นสงครามกันมากกว่านะ เหยียบกันแบบว่าจะเอาเป็นเอาตาย โหดมากๆ แต่ก็ดูสนุก (แบบโหดๆ) ดีนะ ฮาๆๆๆ



สรุปกิจกรรมวันนี้
สรุปผมว่าสนุกมากๆ เลยนะ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมแปลกๆ ที่น่ารักและอบอุ่นของพี่น้องชาวมูเซอ แต่แนะนำว่าถ้าเราเป็นคนนอกเข้ามางานกินวอเองอาจลำบากนิดนึง เพราะนอกจากอุปสรรคเรื่องเส้นทางแล้ว ยังมีอุปสรรคเรื่องภาษาและวัฒนธรรมหลายอย่าง เช่น สมมติว่าถ้ามีผู้ชายมาชวนเรา (ที่เป็นผู้หญิง) ไปเต้นจะคึด้วย ถ้าเราตกลงไปกับเค้าก็แปลว่าเราพร้อมที่จะไปอยู่กับเค้าตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นไป เฮือกกกกกก…
ประทับใจนะ ปีหน้าก็จะมาอีก (ถ้าเค้าชวนอะนะ)