กลับมาถึงท่าเรือคุระบุรีแล้ว ,, เราก็จะไปเที่ยวกันต่อเนื่องที่สิมิลัน
จริงๆ ตอนแรกตอนอยู่ที่เกาะสุรินทร์ผมก็ให้บาราคุดาทัวร์ลองติดต่อบริษัททัวร์ที่พาไปเกาะสิมิลันดู สืบราคาและโปรแกรมการท่องเที่ยว ,, สรุปได้มาว่าเป็นของบริษัทเม็ดทรายทัวร์ จำนวนที่ไป 2 วัน 1 คืน แต่ราคาแพงกว่าทัวร์ของบาราคุดาร์ที่มาสุรินทร์ 3 วัน 2 คืนอีก (เท่ากับที่หาได้จากในเนตแหละ) ,, แต่จากการสอบถามผู้คนแวดล้อมหลายคนบอกว่าหาดทรายสวยมาก แถมคิดว่าถ้าไม่ไปวันนี้เราก็คงหาโอกาสมาได้ลำบาก ,, ก็เลยวานบาราคุดาทัวร์ติดต่อจองทัวร์อีกเจ้าให้
เมื่อลงเรือมาก็ต้องรีบต่อรถลงไปทับละมุเลยทันที ,, เพราะบขส.คุระบุรีอารมณ์ประมาณจุดแวะระหว่างทาง ไม่ได้มีรถตลอดเวลา รถคันที่ผมติดไปก็เป็นรถของบ.รุ่งกิจทัวร์ ข้อดีของรถคันนี้คือเป็นรถแอร์เย็นฉ่ำพร้อมบริการ Wifi ภายในรถ ,, แต่ข้อเสียคือ Wifi หลุดบ่อยมาก (จนรำคาญ) แต่ก็เอาเถอะครับ…

ว่าแต่… ทับละมุอยู่ไหน
เฮดดิ้ง ทู ทับละมุ
นั่งรถทัวร์ตะลอนตะลอน ผ่านอำเภอต่างๆ ของพังงา, ผ่านตะกั่วป่า, ผ่านเขาหลัก, …
ดู ลุยเดี่ยวเที่ยวใต้ ภาคสิมิลัน :: ตอนที่ 5 ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
จนถึงสามแยกนึง รถทัวร์ก็อัญเชิญผมลง ผมก็งงๆๆ งัวเงียๆ ลงมา ,, เห็นป้ายบ่งชี้ว่าสามแยกนั้นมีชื่อว่าแยกทับละมุ ก็ถึงบ้างอ้อว่าถึงแล้วนะ ซึ่งในจุดนั้นก็มีพนักงานของบริษัทเม็ดทรายเค้าก็มารอรับเราอยู่แล้ว เค้าก็พาเรามายังออฟฟิสฯ เพื่อลงทะเบียนและจ่ายเงินตามที่เราได้จองไว้

หลังจากไปลงทะเบียนทุกสิ่งอันเรียบร้อย วันนี้ก็จะมาพักที่ศูนย์จุฬาภรณ์ฯ ที่ได้จองไว้ (ตรงข้ามออฟฟิสของเม็ดทรายเลย) ,, กล่าวคือ ภายในศูนย์อนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลจุฬาภรณ์นั้นเค้าเปิดบ้านพักรับรองให้เราสามารถไปพักได้ด้วย ส่วนตัวผมว่าคุณภาพโอเคนะ อาจไม่ได้สวยเหมือนโรงแรม แต่ว่าสะอาดและคุณภาพก็ดีเลยทีเดียว แถมใกล้ท่าเรือทับละมุมากๆ ,, บ้านพัก 2 ชั้น (มีที่จอดรถ, ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องครัว, UBC, ตู้เย็น, แอร์ 2 ตัว) ที่ผมไปอยู่ราคาคืนละ 600 บาทเอง (เห็นว่ามีห้องเดี่ยวให้พักด้วยนะ ราคาก็ไม่แพง)


ถ้าสนใจลองโทรไปจองและสอบถามเพิ่มเติมที่ 076-595090
นั่งเรือไปสิมิลันกัน
หลังจากหลับเต็มอิ่มที่บ้านพักรับรองฯ แล้วก็เดินทางมายังออฟฟิสของบริษัททัวร์ หม่ำข้าวเช้าให้อิ่มท้องซักหน่อย ,, จากนั้นเราก็เดินไปยังท่าเรือทับละมุ (ซึ่งอยู่ในศูนย์อนุรักษ์ฯ นั้นแหละ) จากนั้นเราก็นั่ง Speed Boat ของทางบริษัทอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ เพื่อมายังเกาะครับ


ดู ลุยเดี่ยวเที่ยวใต้ ภาคสิมิลัน :: ตอนที่ 6 ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า

ในที่สุดก็ถึงเกาะซักที
อดทนนั่งสปีดโบ๊ทชั่วโมงครึ่งก็มาถึงเกาะครับ โดยเกาะที่วันนี้จะมาพักแรมคือเกาะสี่ครับ (หมู่เกาะสิมิลันเป็นภาษายาวี แปลว่าเก้า ซึ่งเกาะสิมิลันก็มีเกาะที่เป็นองค์ประกอบหลัก 9 เกาะ) ซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะที่มีศูนย์บริการของอุทยานฯ อยู่ เราสามารถพัก (เลือกได้นะว่าจะเอาบ้านพักหรือจะนอนเต๊นท์) และทำกิจกรรมบนเกาะนี้ได้ ส่วนอีกที่ที่เราสามารถไปพักได้คือเกาะแปดครับ ,, ส่วนเกาะอื่นๆ เช่นเกาะ 1-2-3 ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงที่เต่าไปวางไข่ เลยอดไปเล่นน้ำแถวๆ นั้นเลย (ถ้าใครจะไปลองแวะไปดูที่เวปของอุทยานก่อนก็ดีนะ)


วันนี้คนค่อนข้างเยอะ ต้องรีบไปขึ้นทะเบียนแล้วไปรับกุญแจเต๊นท์ก่อน (ไปพร้อมกับพี่ไกด์ของบริษัททัวร์) ,, พอถึงเต๊นท์แล้วก็ถึงบางอ้อว่าทำไมชาร์จค่าที่พักกรูแพงวะ มันเอาเต๊นท์สำหรับนอน 3 คนให้กรู!!! กว้างมากๆ ใช้สอยพื้นที่ไปไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือเอาไปเตะบอลได้
ปกติถ้าเราไปทัวร์คนเดียวมักจะถูกชาร์จค่าที่พักเพิ่ม เต๊นท์และห้องพักส่วนมากออกแบบสำหรับไป 2 คน อย่างเช่นเต๊นท์ของอุทยานก็มีเต๊นท์เล็กสำหรับ 2 คน และเต๊นท์ใหญ่สำหรับ 3 คน หารราคาเฉลี่ยแล้วจะตกคนละร้อยกว่าบาทต่อคืน แต่ถ้าเราลุยเดี่ยวเราก็ต้องรับภาระราคาที่พักแบบคนเดียว ยิ่งถ้าได้เต๊นท์ใหญ่เราก็ต้องจ่ายหนัก


เก็บของในเต๊นท์ (เหลือบไปเห็นตัวเหี้ย (ที่เห็นเรียกกันตัวเงินตัวทองอะไรนั่นล่ะครับ) เดินอยู่ด้วย กลัวมันเข้าเต๊นท์โคตรๆ ใครมีอาหารไว้ในเต๊นท์ระวังได้นอนกะเหี้ยแบบไม่รู้ตัว ฮาๆๆๆ) ล๊อกเต๊นท์ให้แน่น แล้วก็ออกไปกินข้าวที่บริษัททัวร์เค้าเตรียมไว้ให้ ,, มื้อนี้หิวนิดนึงเลยจัดหนักไปหน่อย

น้ำทะเลใสๆ กับทรายสวยๆ
อีกหนึ่งในสิ่งที่เป็นสเน่ห์ของสิมิลันนอกจากการดำ Scuba ก็คือหาดทรายและทะเลนี่แหละ ,,
หาดทรายที่นี่นุมละมุนฝ่าตีนยิ่งกว่าพรมเสียอีก หาดทรายที่นี่เกิดจากเศษเปลือกหอยและเศษปะการังที่ตายแล้วถูกน้ำทะเลซัดและขัดสีมาหลายสิบหลายร้อยปีจนกลายเป็นทรายอนุภาคเล็กๆ นุ่มๆ ให้เราเหยียบ (ดังนั้น เราไม่ควรเอาทรายกลับบ้านนะจ๊ะ ปล่อยให้เป็นสมบัติของคนไทย ให้ลูกหลานเราได้มาเหยียบทรายที่ละมุนตีนโคตรๆ กันเถอะ)
ส่วนน้ำทะเลที่นี่ก็โคตรใส ใสยิ่งกว่าน้ำในสระ ใสแบบไม่มีคำบรรยาย ใสจนคิดว่าตอนนี้เราอยู่ในแดนสวรรค์หรือไร ,, เอาเป็นว่าขนาดยืนลงไปครึ่งตัวแล้วมองลงไปยังเห็นปลายตีนของตัวเอง (ถ้าไม่โดนคลื่นซัดทรายมาถมทับปลายตีนท่าน) พวกปลาก็มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า





เห็นน้ำใสๆ ใครอดใจเล่นอยู่ก็แปลกละเหอะ



นั่งเล่นหาดทรายสักครู่ ก็ออกเรือไปชมเกาะต่างๆ (อยู่ในโปรแกรมทัวร์)
นั่งดูพระอาทิตย์ตก
จากนั้นเรือก็พาเราไปเที่ยวเกาะต่างๆ รวมทั้งพาไปดำน้ำด้วย ส่วนตัวผมว่าก็โอเคนะ ปะการังไม่ค่อยมี ไอ้ที่มีก็ฟอกขาว ส่วนปลาก็มีเยอะอยู่นะ แต่กิจกรรมที่ผมชอบอีกอันคือการนั่งดูพระอาทิตย์ตกพร้อมกับรับประทานอาหารเย็นไปด้วย บรรยากาศมันทั้งชิลและโรแมนติกมากๆ ,, ค่อยๆ มองดูพระอาทิตย์คล้อยตัวต่ำลงเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ามันดูสวยกว่าทุกวัน ทั้งๆ ที่มันก็ตกทุกวัน




จริงๆ บนฝั่งพระอาทิตย์ตกก็สวยนะ 🙂
แต่จริงๆ ก็ถึงบางอ้อว่าทำไมทัวร์สิมิลัน 2 วัน 1 คืน ถึงแพงกว่าทัวร์สุรินทร์ 3 วัน 2 คืน ,, เพราะว่าที่ทัวร์ของเม็ดทรายกิจกรรมของนักท่องเที่ยวจะอยู่บนเรือแทบทั้งหมด จะอยู่บนเกาะก็แค่เล่นหาด, นอนเต๊นท์ ส่วนที่เหลือจะอยู่บนเรือเกือบทั้งหมด ตั้งแต่กินข้าวเช้า, เที่ยง, เย็น, เล่นน้ำ, ชมเกาะต่างๆ ,, ส่วนตัวผมคิดว่ามาทัวร์นี้แล้วแพงไป ไม่ค่อยคุ้มเลยนะ (เพิ่งเห็นว่ามีคนไม่พอใจเม็ดทรายทัวร์ด้วย แต่เราไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้) จริงๆ เสียเงินค่าเรือกับค่าที่พักให้อุทยานฯ แล้วนอนบนทรายให้น้ำทะเลซัดก็พอแล้ว แถมราคาก็น่าจะถูกลงซักครึ่งนึงด้วย


พระอาทิตย์ก็ตกแล้ว กินก้อิ่มแล้ว อย่าเพิ่งรีบหลับนะครับ
กิจกรรมคืนนี้ยังไม่จบ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดอีกอย่างในยามราตรี (นอกจากนั่งฟังเสียงค้างคาวแม่ไก่ร้องทั้งคืนแล้ว) คือเราจะไปดูปูไก่กันครับ ,, เค้าบอกว่าที่มาของปูไก่เนี่ยเกิดจากเสียงก้ามปูที่เวลาขยับชนกันแล้วจะมีเสียงเหมือนแม่ไก่ (เค้าเล่ามา ไปดูเองแล้วไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น)
ปูไก่มีวงจรชีวิตที่ไม่ค่อยซ้ำใครคือ วัยอ่อนเจริญในน้ำทะเล พอโตก็ย้ายมาอยู่บนบก ขุดรูและหากินใกล้ๆ แหล่งน้ำจืด จนถึงระยะผสมพันธุ์-วางไข่ ตัวเมียก็ลงไปปล่อยไข่ริมทะเล ให้น้ำทะเลพาไข่กลับไปฟักเป็นตัว เจริญอยู่ในน้ำทะเล ก่อนที่จะกลับมาอยู่บนบกวนเวียนไปแบบนี้ ,, ตัวผู้สีจะซีดๆ ม่วงๆ เทาๆ ส่วนตัวเมียสีสด ออกแนวสีส้มๆ แดงๆ โดยเฉพาะตรงก้ามมัน


แม้ปูไก่ตัวใหญ่และดูน่ากิน แต่เค้าบอกว่าปูไก่ไม่อร่อย เพราะกลไกการขับของเสียของปูไก่จะต่างกับปูอื่นๆ คือปูไก่จะเก็บของเสียส่วนนึงไว้ในตัวในรูปของกรดยูริคด้วย (แต่ก็ไม่ได้ลองกินเช่นกัน)

ดูปูไก่เสร็จ คืนนี้ก็พอพักก่อน ตรวจที่นอนไม่มีเหี้ยหลุดเข้ามา นอนได้สบาย พรุ่งนี้เจอกัน
สวยจับใจ
ทุกรูปถ่ายโดย Nokia N8
ตอนนี้อ่านหนุกจัง ^^ รูปสวยมาก
“ดังนั้น เราไม่ควรเอาทรายกลับบ้านนะจ๊ะ”
ถูกต้องที่สุดจ้าา รออ่านตอนต่อไป✌
ไปเที่ยวควรจะไปสองคนสินะ ฮิๆๆๆ
แค่นั่งดูรูปก็อิ่มแล้ว
ถึงขนาดต้องไปหาของกินบ้างอะไรบ้าง
อยากอิ่มเหมือนเม้นข้างบนสินะ
น้ำใสมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
บร๊ะ น้ำใสเว่อร์ ใส๊……….ใส
ใสแบบนี้จริงๆ ,, ไม่ได้โม้ อิอิ