หลังจากที่จัดหนักที่ฝั่งทั้งกินและเที่ยวมาแล้วในตอนที่ 1 ของทัวร์ระนอง คราวนี้เราก็จะออกเรือไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเกาะบ้างครับ ซึ่งที่ระนองมีเกาะให้เที่ยวหลายเกาะ ทั้งเกาะช้าง เกาะเหลา เกาะค้างคาว ,, แต่ที่ตอนนี้นิยมไปกันคือเกาะพยามครับ ซึ่งผมก็เลยอยากรู้ว่าเค้าไปเกาะพยามกันทำไม
ข้อมูลที่ต้องรู้และการเตรียมพร้อมก่อนไปเกาะ
การเตรียมพร้อมหลักๆ มันขึ้นกับว่า เราจะไปกี่วันและจะทำอะไรบ้าง
- พวกที่พักมีหลายเกรดนะ ตั้งแต่คืนนึงสองสามร้อย จนถึงคืนละห้าหกพัน ,, มันต่างกันที่ Facilities ,ความหรูหรา, วิว และพวกบริการพิเศษต่างๆ ,, ยกตัวอย่างเช่นการบริหารไฟฟ้า รีสอร์ทที่ราคาไม่แพงมากเค้าจะปั่นไฟเป็นเวลาเฉพาะช่วงเย็นๆ ถึงหัวค่ำ (นอกจากนั้นเราก็อยู่ในโลกที่ไม่มีไฟฟ้ากัน) แต่ถ้ารีสอร์ทหรูๆ บางที่เค้าจะปั่นไฟให้เราใช้ตลอดเวลา มีแอร์ มีน้ำอุ่น ก็พึงสังวรณ์ว่าเงินที่เราจ่ายแพงส่วนนึงก็เพื่อพวกนี้ด้วย ,, แต่ถ้าให้แนะนำ ผมว่ามีชีวิตเรียบๆ ไม่ต้องมีอะไรปรุงแต่งก็ดีนะ อยู่รีสอร์ทของชาวบ้าน อยู่ได้ในราคาที่ไม่แพงและใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่ามากๆ
- ราคาอาหารบนเกาะจะแพงกว่าบนชายฝั่งหน่อยนึง ประมาณว่าเราไปกินอาหารตามห้าง อาหารจานเดียวก็ตก 50-60 บาท ขนมต่างๆ ก็จะแพงกว่านิดหน่อยในระดับที่รับได้ ส่วนพวกของใช้ต่างๆ แนะนำว่าหามาจากฝั่ง (รวมทั้งอะไรที่เราเอามา ไม่ควรทิ้งเป็นภาระบนเกาะด้วย)
- บนเกาะมีสัญญาณมือถือ AIS แน่ๆ (เพราะผมใช้อยู่) แต่เจ้าอื่นไม่รู้ครับ
- การเดินทางบนเกาะ ถ้ามีเวลาไปอยู่ซักเจ็ดวันสิบวัน แนะนำว่าให้เดินเอา เพราะบรรยากาศมันชิลมากๆ เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า และถนนบางส่วนยังเป็นทรายและไม่ได้ออกแบบมาสำหรับขับขี่บวดยาน ,, แต่ถ้าอยู่สั้นๆ สองวันสามวันแนะนำให้เช่าจักรยานยนต์แล้วขี่รอบๆ เกาะ ซึ่งสะดวกรวดเร็วมาก และเราสามารถออกจากที่พักช่วงดึกๆ ได้ (เพราะไม่มีไฟฟ้าน๊ะจ๊ะ)
- เสื้อผ้าแนะนำว่าเอาไปเท่าที่ใส่จริง จะเผื่อก็อย่าเยอะ หรือถ้าจะอยู่หลายวันก็อาจต้องเลือกเสื้อผ้าพวกที่ใส่ง่าย ซักง่าย ไม่ต้องรีด ไม่ต้องกลัวยับ ,, ส่วนกระเป๋าก็เช่นกัน พยายามแพ็คให้น้อยชิ้นที่สุด กระเป๋าควรเป็นเป้สะพาย ไม่แนะนำเอาเป็นกระเป๋าล้อลาก เนื่องจากพื้นที่ในการลากไม่ค่อยมีลานกว้างเรียบๆ ให้เข็นเฉิดฉายกระเป๋าใบสวยสักเท่าไหร่
- ไปเกาะพยามแนะนำว่าไปพักผ่อน เงียบๆ สงบๆ อย่าเอางานไปทำหรือสร้างกิจกรรมที่อึกทึกคึกโครมมาก ,, ซึ่งจริงๆ บนเกาะก็มีบาร์+ดนตรีแนวๆ เร๊กเก้นะ เราไปนั่งแจมๆ ได้ (ทั้งนี้การเลือกที่พักที่ใกล้กับบาร์อาจมีเสียงดังตอนกลางคืนนะ)
- ประชากรหลักของเกาะนี้เป็นฝรั่งประมาณ 70%, ชาวบ้าน 25%, ส่วน 5% คือนักท่องเที่ยวไทย

ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันเถอะ
เปิดศักราชที่ท่าเรือ
หากตั้งใจจะไปเที่ยวเกาะพยามแล้ว แนะนำให้ตื่นเช้ากันนิดนึงครับแล้วไปที่ท่าเรือตรงปากน้ำครับ (ส่วนตัวผมแนะนำให้กินข้าวไปให้อิ่มก่อนขึ้นเรือนะ) เราจะขึ้นเรือกันที่นี่ โดยเรือที่นี่มีให้บรืการคือ
- เรือเมล์ธรรมดา เป็นเรือใหญ่ นั่งได้เจ็ดแปดสิบคนได้ แถมบรรทุกของได้เพียบ ,, ออกวันละ 2 รอบ คือ ขาไปเกาะพยาม 09.30 และ 14.00 น. และขากลับ 08.00 และ 14.00 น. (อาจเลทเล็กน้อยหากมีน้ำขึ้นน้ำลงจนเอาเรืออกไม่ได้) สนนราคาเที่ยวละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนตัวแนะนำเรือเมล์ โดยเฉพาะคนที่เมาเรือหนักหรือวันที่คลื่นสูงมากๆ
- สปีดโบ๊ท แล่นฉิวสู่เกาะพยามในเวลาประมาณ 30-45 นาที ,, ออกวันละ 2 รอบเช่นกัน คือ ขาไปเกาะพยาม 10.00 และ 14.30 น. และขากลับ 09.00 และ 13.30 น. สนนราคาเที่ยวละ 350 บาท


ตอนที่ผมมาถึงท่าเรือค่อนข้างเช้า แต่คนก็เริ่มๆ ทยอยมาเรื่อยๆ ,, ส่วนเรือก็จอดแน่นึ่ง เพราะน้ำยังไม่ขึ้น

ระหว่างรอน้ำขึ้น เราก็มาปักหมุดแผนที่ที่จะเที่ยวกันดีกว่า มีทั้งอ่าวและจุดชมวิวหลายที่ ,, ส่วนพวกรีสอร์ทที่ผมไม่ได้พักหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผมไม่ได้ปักหมุดไว้นะครับ
ดู ลุยเดี่ยวเที่ยวใต้ ภาคระนอง :: ตอนที่ 2 ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
ปู้นๆ เรือออกแล้วจ้า
ราวเก้าโมงสี่สิบห้า เจ้าหน้าที่ก็ให้สัญญาณลงเรือครับ ,, อยากบอกกว่าช่วงนี้ชุลมุนมากๆ ทั้งนักท่องเที่ยวก็จะแย่งกันลงไป คนเรือก็จะขนของ แถมมีบางคนลืมของอีกก็ต้องวิ่งมาเอา บางคนมาเลทอีก วุ้ย!! เอาเป็นว่าค่อยๆ ลงเรือและก็หาที่นั่งที่ชอบของตัวเองครับ

และแล้ว ,, เรือก็ค่อยๆ แล่นออกจากฝั่ง บรรยากาศแถวนั้นฝั่งนึงจะเป็นย่านประมงและแรงงานพม่า อีกฝั่งจะเป็นป่าชายเลน ,, แรกๆ ที่ออกมาจากท่าเรือผมว่าทะเลแถวนั้นไม่ค่อยสะอาดทั้งจากขยะและคราบน้ำมัน แถมมีกลิ่นคาวๆ จากการทำประมงด้วย มีเรือประมงจอดเรียงกันเป็นตับ แถมเห็นแรงงานพม่าต่อคิวทำอะไรสักอย่างด้วยแหละ อิอิ





เรือลำที่ผมขึ้น นอกจากคนขับไทย ก็มีแรงงานพม่าอีก 2-3 คน นอกจากนั้นฝรั่งล้วน มีผมคนเดียวที่เป็นนักท่องเที่ยวคนไทย ,, ฝรั่งเวลาเดินทางเค้าจะชอบอ่านหนังสือสลับกับเดินชมวิว ดูดบุหรี่ และนอนหลับเป็นพักๆ (มีกรนด้วย) ,, ส่วนผมก็ดูแหม่ม นั่งเล่นทวิตเตอร์ และสลับกับถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ของเรือ ,, คิดว่าฝรั่งมันก็คงรำคาญผมเหมือนกัน ฮาๆๆๆ
แต่พออกมาจากฝั่งสักพัก กลิ่นไอทะเลที่ไม่มีกลิ่นคาวเริ่มมา เรือประมงเริ่มน้อย น้ำทะเลเริ่มสวย วันนี้อากาศดีครับ คลื่นลมสงบ ,, เราก็อินกับบรรยากาศป่าชายเลนด้านนึง ส่วนอีกด้านก็เป็นทะเล มองเห็นเกาะเล็กเกาะน้อยบ้าง ส่วนเกาะใหญ่ๆ ที่เห็นเค้าเรียกว่าเกาะช้างน่ะครับ เห็นว่าคนก็ชอบไปเที่ยวเหมือนกัน




สองชั่วโมงกว่าๆ ผ่านไป ,, เราก็ถึงฝั่งแล้วครับ
ณ ท่าเรือเกาะพยามจ้า
มาถึงฝั่ง แม้ไม่เมาเรือแต่ก็มึนได้ที่ ,, วันนี้แดดแรง ฟ้าใสดี ทะเลสีคราม เห็นชายหาดลิบๆ

เอิ้กๆๆๆๆ กางแผนที่มาดูก่อนดีกว่า
ดู ลุยเดี่ยวเที่ยวใต้ ภาคระนอง :: ตอนที่ 2 ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
พอมาถึงเกาะพยาม ,, ก่อนอื่นเราก็ต้องวิ่งปรี่ไปหาที่เช่ามอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นยานพาหนะหลักในการไปเที่ยวที่ต่างๆ ของผมกันก่อน ตอนที่ผมไปค่าเช่ามอไซวันละ 200 บาท, น้ำมันลิตรละ 50 บาท ,, แต่ถ้าใครต้องการแค่ให้มีมอไซไปส่งที่พัก (เท่าที่เห็นเค้าให้ราคาฝรั่ง) ก็ 80 บาทนะ
ถึงชมจันทร์รีสอร์ทที่จองไว้แล้ว ,, รีสอร์ทที่นี่เป็นลักษณะบังกาโลให้เช่า ของผมเช่า 1 หลังจำนวน 1 คืน เค้าคิดราคา 600 บาท ,, เท่าที่สำรวจสภาพแวดล้อมและสภาพห้องถือว่าคุ้มค่าราคามากๆ เพราะเป็นรีสอร์ทติดทะเล จะนั่งชิลติดหาดหรือจะนอนตากลมที่เก้าอี้ผ้าใบก็ได้, สภาพห้องก็โอเคนะครับ ดูแล้วน่านอนมาก




แต่ที่นี่ไม่ใช่บังกะโลไฮโซมาก เลยยังมีพวกข้อจำกัด เช่น ปั่นไฟฟ้าเฉพาะ 18.00-22.00 น. หลังจากนี้จะใช้ไฟจากโซล่าเซล ถ้าแดดแรงก็จะมีไฟใช้จนถึงดึกๆ แต่ถ้าวันไหนแดดร่ม อีกประมาณชั่วโมงนึงไฟจะดับ ซึ่งมันจะลำบากตรงที่ไม่มีพัดลม+ยุงกัด แต่เราก็สามารถย้ายตัวเองไปนอนริมหาดได้ ลมแรงดีมาก (แต่ก็มืดๆ ดูน่ากลัวๆ นิดนึงอะนะ) แต่ถ้าใครจำเป็นต้องชาร์จแบตหลายสิ่งอันเช่นแบตกล้อง, แบตมือถือ แนะนำว่าให้ฝากเฉพาะแบตไว้ที่ Counter ชาร์จ เพราะในห้องเรามีปลั๊กแค่อันเดียวซึ่งเหมาะกับการเสียบพัดลมมากที่สุด
ไม่ได้โปรโมทหรือโฆษณา แต่ว่าถ้าสนใจลองโทรไปจองได้ที่ 085-6784166 ครับ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บของรีสอร์ทก็ได้นะครับ (ส่วนรีสอร์ทอื่นๆ ที่มีคนแนะนำผมมาบ้างก็มีพวกซิลเวอร์แซนด์, พยามค๊อทเทจ และวิจิตรบังกาโล )
เอาเป็นว่า เก็บของแล้วรีบไปรับลมทะเลดีกว่า
ขับรถเล่นรอบเกาะ
เกาะพยามจะมีถนนเส้นหลักที่เป็นถนนคอนกรีตกว้างระดับมอไซสองคันสวนกันได้ เป็นแกนกลางและพาไปยังพวกสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ เช่นอ่าวใหญ่ ท่าเรือ หรือพวกรีสอร์ทต่างๆ ,, แต่พวกสถานที่เล็กๆ ถนนมันจะไม่ได้เป็นถนนคอนกรีตดีๆ อะ ,, บางทีก็เป็นดินลูกรัง, บางทีก็เป็นทราย, บางทีก็ต้องลุยป่าฝ่าดง, ขับขึ้นเนินและถนนที่ไม่เรียบ บางเส้นทางชันและอันตรายมากๆ เช่นตรงทางเข้าหมู่บ้านมอแกน จะเป็นทางดินที่ชันมาก เหมาะกับการเดินเท่านั้น กับอีกอย่างที่แนะนำคือ เวลาหลังพระอาทิตย์ตกควรรีบกลับที่พัก อย่าไปเดินแรดเข้าหาดเข้าป่าเพราะว่ามันมืด เกาะไม่ได้มีไฟส่องสว่างนะ


แรกๆ ผมออกแนวงงๆ เหมือนกัน ขี่รถวนไปมา กว่าจะเริ่มจับทางที่เที่ยวได้ก็ใช้เวลาไปไม่น้อยเหมือนกัน แต่ที่เที่ยวหลักๆ บนเกาะมักเป็นพวกหาดและจุดชมวิวอะ
อ่าวใหญ่
ชื่อมันบอกว่าอ่าวใหญ่ เป็นชายหาดที่กว้างมากระดับเดินแล้วเมื่อย กะระยะทางแล้วจะประมาณ 3-4 กม. ได้ โดยอ่าวใหญ่จะมีคลองเล็กๆ แบ่งอ่าวให้เป็น 2 โซน คือโซนบนซึ่งใหญ่กว่ากับโซนล่างที่เล็กกว่า ซึ่งรอบๆ อ่าวใหญ่นอกจากจะมีต้นไม้ล้อมรอบแล้ว ก็ยังพบที่พัก, บังกาโล (ถ้าเดินหาดีๆ จะพบที่พักถูกๆ คุณภาพดีแถวนี้นะ เห็นมีฝรั่งคนนึงนอนคืนละแค่ 200 เองอะ), และพวกบาร์เบียร์ต่างๆ ซึ่งตอนดึกๆ เราก็สามารถแว๊บมานั่งที่นี่ได้




อ่าวใหญ่เหมาะมากสำหรับการเดินทอดอารมณ์ เพราะด้วยระยะทางของมันและลักษณะชายหาดที่โรแมนติกมากๆ ,, อ่านแล้วอาจงง เพราะถ้าสังเกตจริงๆ ทรายที่ชายหาดของอ่าวใหญ่จะไม่ใช่ทรายที่ขาวละเอียด แต่ลักษณะจะเป็นทรายปนเลนสีดำๆ หน่อยนึง ,, แต่การที่มันมีสีดำปนนี่แหละคือความโรแมนติกของมัน เพราะตอนพระอาทิตย์ตก เราจะเห็นชายหาดที่ถูกเคลือบด้วยน้ำทะเลนั้นใสเหมือนกระจกสะท้อนเลย




พระอาทิตย์ตกทุกวัน แต่เมื่อมองไปแล้วกลับสวยกว่าทุกวันที่เป็น
หมูบ้านมอแกน
ส่วนตัวผมว่าหมู่บ้านมอแกนที่นี่ไม่ค่อยน่ามาเท่าไหร่ อย่างที่เล่าให้ฟังคือหนึ่ง ทางไปหมู่บ้านมอร์แกนนี่ลำบากในการขับจักรยานยนต์มากๆ และชาวมอแกนไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้านะ ,, ถ้าไปแถวนี้ก็แค่ไปดูบ้านเรือนเค้า (ที่ส่วนมากอพยพออกมาจากหาดหลังโดนสึนามิ) และก็ดูเค้าเก็บกาหยูหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั่นแหละ (ซึ่งจริงๆ บนเกาะก็มีต้นกาหยูโคตรจะเยอะ ส่งกลิ่นอบอวลไปทั่วทั้งเกาะอยู่แล้ว)



อ่าวเขาควายแบบ Unseen
จริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาที่จุดนี้เลย กะแค่ว่าเดินจนถึงสุดทางของหมู่บ้านมอแกนพอ อยากรู้แค่มันมีอะไร ไปถึงสุดทางก็เป็นโซนโขดหิน ชาวบ้านเรียกแถวนั้นว่าหัวแหลมของอ่าวเขาควาย ซึ่งเป็นจุดที่สุดแล้วของอ่าวเขาควาย ลักษณะแถวนี้เป็นป่า ทั้งป่าจริงจังและป่าชายเลนสลับกับโขดหินและดินเลน มีหาดทรายนิดหน่อย ,, ถามถึงระดับความน่ามาเรียกว่าติดลบ สังเกตจากนักท่องเที่ยวที่มีผมแค่คนเดียว



แต่ถ้าใครต้องการความสดและแปลกใหม่ต้องมาที่นี่แหละครับ ชาวบ้านบอกว่าต้องรอน้ำลงก่อนประมาณห้าโมงกว่าๆ ถึงจะเห็นของดี ,, เอาก็เอาวะ ไปหาดไหนมันก็คงคล้ายๆ กันแหละ ลองดูของแปลกที่นี่ละกัน



พอน้ำลงถึงจุดๆ นึง อยู่ดีๆ ก็มองเห็นเนินทรายคล้ายเกาะโผล่ขึ้นกลางทะเล ,, ผมก็เดินฝ่าทะเลความลึกประมาณเมตรกว่าๆ ไปอยู่บนเนินนั้น ,, ดูๆ แล้วเนินนั้นไม่มีอะไร ก็มีแต่ปู (ไม่รู้จักชื่อ) ซักร้อยตัว ไม่แปลกอะไรนี่นา

แต่พออยู่บนเนินซักพัก ปูมันไม่ได้มีแค่ร้อยตัวหรอกครับ มันมีประมาณแสนเป็นล้านตัวหรือมากกว่านั้น ,, พื้นที่ที่เป็นเนินนั้นฉาบไปด้วยสีส้มที่เป็นสีของขาปูเต็มแน่นยกเว้นรอบๆ ตัวผม ซึ่งมันเจ๋งมากๆ เลยแฮะ ,, ผมพยายามวิ่งไปถ่ายรูปมันแต่ปูก็ขุดดินกลบตัวเองเพื่อหนีผม เอาว่าเก็บภาพมาตามที่จะพอถ่ายไหวก็แล้วกัน




บรรยากาศบนเนินนั้นมันสุดยอดจริงๆ
กลางคืนแห่งเกาะพยาม
อันนี้ก็แล้วแต่จะเลือกนะครับ มีตั้งแต่จะเลือกนอนพักเงียบๆ ที่บังกาโล สบายๆ , นอนชิลที่หาดทราบหน้าบังกาโลรับลมทะเล นอนดูดาว, หรือจะไปนั่งดื่มและฟังดนตรีตามบาร์ต่างๆ บนเกาะ (เท่าที่สังเกตออกแนวเรกเก้, สกาเป็นหลักนะ) ราคาเครื่องดื่มไม่ได้แพงมากนะ ถูกกว่าตามผับชื่อดังในกรุงเทพฯ ละกัน ,, แต่มีข้อแนะนำว่าการออกที่พักตอนกลางคืนถ้าไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปก็นี่จะมีไฟฉายเล็กๆ ติดไม้ติดมือนิดนึง เพราะมันมืดและอาจเห็นทางไม่ค่อยชัด
เดินทางกลับระนองแล้ว
แหกขี้ตาตื่นไปท่าเรือเพื่อขึ้นเรือกลับ (เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันเที่ยวเช้าที่เรือออก 8.00 น. นะเธอ) ,, จริงๆ ใจผมก็อยากจะอยู่ให้นานกว่านี้ แต่ว่าด้วยความจำกัดของหน้าที่การงาน ทำให้อยู่ที่เกาะได้แค่คืนเดียว ทั้งๆ ที่อาจจะอยู่ซัก 2-3 คืน เที่ยวก็ยังไม่ค่อยครบ ความสงบก็ยังไม่ค่อยพีค… เอาเถอะ แค่นี้ก็มีความสุขมากๆ แล้ว คราวหน้าถ้ามีโอกาสค่อยมาใหม่ก็แล้วกันนะ เจ้าเกาะพยาม




ปิดทริปเที่ยวระนองสองวันสองคืนจำนวนสองภาคแบบสมบูรณ์ ,, หมดภาคนี้ขอแว้บกลับกทม. แป๊บนึง ,, แล้วเดี๋ยวภาคหน้ามาต่อทริปเที่ยวใต้แบบซุปเปอร์คอมโบครับ
น่าไปยิ่ง !!!!!
อยากเห็นปู!
ขยันเที่ยวเหลือเกินพ่อหมอ
เม็ดกาหยู ของโปรดดดดด
รับสมัครคนติดเกาะด้วยมั้ย
ดูแล้วอยากไปเป็นชาวเกาะซักพัก
มาเลยๆๆๆ
หนุกมากมาย อ่านแล้วเพลินๆ
เคยอยู่ระนอง ไปมา หลายรอบ รอบแรกไปเรือประมงชาวบ้าน ต้องเรียกได้ว่าไปเกาะพยายามเลยทีเดียว
ที่มาของเกาะพยามนี่เอง ฮาๆๆ
ผญ ไปคนเดียวจะปลอดภัยมั้ยค่ะ ค่าใช้จ่ายหมดเยอะมั้ยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ผมว่าโอเคนะ เพราะเห็นฝรั่ง(ผู้หญิง)ไปคนเดียวเยอะเหมือนกัน
ส่วนค่าใช้จ่ายนี่ขึ้นอยู่กับที่พักเลย ,, อย่างที่ที่ผมไปอยู่ก็คืนนึงประมาณ 500 บาทนะ แต่ถ้าเราติดสบาย ต้องมีไฟหรือติดแอร์ทั้งคืนอาจหลายพันอยู่ (เพราะปั่นไฟเอง) แต่ผมคุยกับฝรั่งบางคน เค้าบอกว่านอนคืนนึง 200 เองอะ ,, ส่วนราคาอาหารจานเดียวก็ประมาณจานละ 50-60 บาท
กำลังจะเดินทางไปพอดีเลยค่ะ..ขอบคุณสำหรับข้อมูล..คงถึงเช้าพอดี..ไปแบบชิวๆๆ
สวัสดีค่ะพี่ตง ^^
น้องปาเป้ค่ะ จบคณะเภสัชศาสตร์ที่เีดียวกันมาค่ะ
แปลกใจมากกกกกกกกกกๆ กำลังจะหาที่พักที่เกาะพยามพอดี ><
ขยันเที่ยวจริงๆเลยนะคะ ..
ปล.รูปสวยดีค่ะ
ปล. 2 พี่ตงรุ่นเดียวกับพี่มะเดี่ยวมั๊ยคะ?? ^^
ออๆๆ พี่รุ่นพี่มะเดี่ยวอีกที อิอิ
อ่าววววววววว หรอคะ 5555555555
ไปเลยน้อง เกาะพยามนี่ให้อารมณ์แบบว่าเราไปเมืองนอกเลย คือ คนไทยน้อยมากๆ ขึ้นเรือไปนี่คนไทยนับหัวได้
ส่วนมากที่พักที่คนไทยไปพักคือที่ silversand ซึ่งสวย แต่ราคาแพง มีไฟใช้ตลอด สะดวกสบาย ,, แต่ฝรั่งไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะแพง เค้าจะหาที่พักไม่แพงกัน เพราะพวกนี้อยู่นาน (แนะนำไปเกาะพยามควร 2-3 วันนะ) แต่ไฟฟ้าไม่มีตลอดนะ ไม่มีแอร์ มียุง แต่ก็ฟินเหมือนกัน เพราะเวลากลางวันเราส่วนมากก็ไปเที่ยวที่อื่นๆ อยู่แล้ว (ฝรั่งที่พี่ไปคุยด้วยได้คืนละ 350 เองอะ) ,, ส่วนมากไปเกาะพยามต้องไปแบบชิลๆ ไม่พลุกพล่าน ให้เวลาไหลผ่านช้าๆ นะ อิอิ
ออๆ ควรเช่ามอไซด้วยจะสะดวกมากๆ อิอิ