จากความเดิมตอนที่แล้ว คือหลังจากที่ผมเล่นน้ำที่สิมิลันเสร็จแล้วก็มาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือทับละมุและตั้งใจว่าจะไปจังหวัดตรังต่อ แต่รถตู้จากด้านหน้าของทางบริษัทฯ นั้นมีแค่ไปกระบี่และภูเก็ตเท่านั้น ,, สุดท้ายก็ตกลงปลงใจไปภูเก็ตแบบไม่ทันตั้งตัวครับ
จริงๆ ผมไม่เคยไปทั้งภูเก็ตและกระบี่อะนะ ถ้าถามว่าทำไมไปภูเก็ต ,, ส่วนนึงตอนที่ผมถึงฝั่งก็สี่โมงกว่าแล้ว การเดินทางไปภูเก็ตน่าจะถึงเร็วกว่า มีเวลาตั้งตัวมากกว่าที่ไปกระบี่ที่ระยะทางไกลกว่า คิดว่าถึงก็ทุ่มนึงแล้ว, ถามเพื่อนๆ ดูภูเก็ตก็น่าจะหาซื้อของกินและเครื่องใช้ต่างๆ ได้มากกว่ากระบี่, แต่ที่สำคัญที่สุด คือมีบ้านเพื่อนอยู่แถวนั้น เอิ้กๆๆๆ (ต้องขอบคุณ @willdiesoon, ขิงและครอบครัวที่จองที่พัก ให้ยืมมอไซและดูแลเราเป็นอย่างดีที่ภูเก็ตนะ แม้แค่ช่วงสั้นๆ แต่ก็ขอบคุณมากๆ จริงๆ)
ขึ้นรถตู้ ,, พี่คนขับก็ขับรถฝ่าฝนไป ,, เราก็ผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อย
ถึงภูเก็ตแล้ว
พอถึงภูเก็ต ผมก็ต้องลงที่อำเภอถลาง (เพราะบ้านเพื่อนอยู่ที่นั่น) แล้วก็พัก Apartment เล็กๆ แถวถลางที่ได้จองไว้ก่อนหน้านี้ ที่มีชื่อว่า At Talang Apartment ซึ่งดูสไตล์การตกแต่งจากภายนอกก็เก๋ดีนะครับ ,, ส่วนสภาพห้องภายในนี่ก็ถือว่าดีมากๆ เอาเป็นว่าทิ้งเบอร์ไว้เผื่อจอง 076-272772

ได้ที่พัก โยนกระเป๋าเก็บ แล้วเปิดแผนที่เตรียมเที่ยวก็ได้ตามนี้ครับ ,, แต่ก็ไม่รู้จะเที่ยวอะไรเท่าไหร่เพราะว่าอยู่แค่คืนเดียวเอง แถมไม่ได้วางแผนมาก่อนด้วยสิ แงมๆๆๆๆ
ดู ลุยเดี่ยวเที่ยวใต้ ภาค 7 :: ตอนที่ ภูเก็ต ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
เอาเป็นว่าคืนนี้สำรวจเมืองคร่าวๆ แล้วนอนหลับเอาแรงก่อนดีกว่า ,, ตอนนี้อยากบอกว่าแสบจากแดดเผามากๆ เรียกว่าร้าวรานไปทั้งแผ่นหลังและแขนทั้งสองข้าง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นผลจากการดำน้ำแบบไร้อาภรณ์และครีมกันแดดครับ
สะใจเกิ้น
ตื่นเช้าเข้าเมืองภูเก็ต
นาฬิกาปลุกตั้งแต่ตีห้าครึ่ง นั่นหมายความว่าเวลาแห่งการทัวร์ภูเก็ตเริ่มต้นแล้ว ,, หลายคนงงว่าผมจะแหกขี้ตาตื่นทำบ้าอะไรตั้งแต่เช้า… ก็แน่ละครับ ผมต้องขี่มอเตอร์ไซค์ 15 กิโลเมตรจากอำเภอถลางเพื่อเข้าเมือง อีกอย่างร้านที่เราจะไปกินนี่มันเปิดเฉพาะตอนเช้าครับ ตั้งแต่ 6.00-10.00 น. เป็นร้านติ่มซำเก่าแก่เจ้านึงของภูเก็ตครับ ชื่อว่าบุญรัตน์ติ่มซำ


แม้ว่าบุญรัตน์ติ่มซำจะเปิดที่ภูเก็ตมาตั้งแต่ปีค.ศ.1917 (ประมาณ 85 ปีแล้ว) แต่ก็มีถึง 3 สาขาและมีเวปไซด์ของทางร้านด้วย ซึ่งวันนี้ที่ผมมากินจะไปที่สาขาแรก แถวๆ ถนนบางกอก (คือร้านมันจะต้องเข้าซอยนิดนึงนะ ลองซูมแผนที่ข้างบนดูอะ) ซึ่งแต่ละสาขาจะมีเมนูแตกต่างกันไปบ้าง แต่ทั้งหมดทั้งมวลจะเป็นติ่มซำสไตล์ภูเก็ตนะ ถ้าใครอยากได้เมนูแปลกๆ เยอะๆ หน่อยลองไปสาขาที่สามดูครับ
บิดรถเครื่องมาถึงร้านก็เกือบหกโมงครึ่ง ลูกค้ายังไม่ค่อยเยอะมาก แต่ก็เห็นมาเรื่อยๆ นะ ,, เหลือไปดูป้ายราคาติ่มซำก็ถือว่าไม่แพงนะ เฉลี่ยๆ เข่งนึงก็ประมาณ 10-15 บาท ,, เวลามาถึงร้านก็เข้ามานั่งได้เลย แล้วเดี๋ยวเค้าจะยกติ่มซำทั้งนึ่งและทอดที่มีทั้งหมดในร้านมาวางให้เราที่โต๊ะ เราอยากกินอันไหนเราก็หยิบกินเอาเลย ส่วนอันไหนไม่ได้กินเค้าก็จะเก็บคืนไปไม่คิดเงิน (แต่ถ้ากินไปแล้วซักนิดนึงเค้าก็จะคิดเงินนะครับ) หรือว่าอันไหนไม่ร้อนก็เรียกพนักงานเอาไปอุ่นใหม่ได้


มาถึงแล้วก็เตรียมน้ำจิ้มโดยตักจากโถลงมาใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ ,, น้ำจิมเค้ามีสองแบบให้เลือกตามชอบ คือน้ำจิ้มสีน้ำตาลๆ จะมีกลิ่นออกแนวเต้าเจี้ยวหน่อย, กับสีออกแดงๆ อันนี้จะมีรสออกแนวหวานๆ หน่อย ,, ส่วนตัวผมชอบสีแดงๆ มากกว่านะ




นั่งไปนั่งมาประมาณเกือบแปดโมง ผู้คนแห่กันมาซื้อติ่มซำยังกะแจกฟรีจนคนล้นร้านเลย ตอนนี้ถึงขั้นมีคนมารอต่อคิวเพื่อนั่งต่อ ให้อารมณ์ซิสเลอร์มากๆ (ส่วนเรานั่งชิลกินไปถ่ายรูปไป เอิ้กๆ) หรือบางคนขี้เกียจรอก็ซื้อกลับบ้านเอาก็มี


คนเดียว..ก็กินไปเท่านี้อะครับ ,, 135 บาท (เกือบอ้วก)

เมาติ่มซำ
ขี่รถชมเมืองภูเก็ต
ก็ไปแบบไม่รู้เรื่องอะไร มีมอไซคันนึงก็แล่นไปทั่ว ,, ถนนภูเก็ตนี่ก็แปลกดีนะ เป็นสี่แยก ห้ามเลี้ยวซ้าย ห้ามเลี้ยวขวา ให้ตรงไปอย่างเดียว… แล้วจะให้เราตรงไปไหนหว่า แถมหาที่อ้อมกลับมาจุดเดิมนี่ก็ลำบากนะ ผมสังเกตแค่ป้ายที่เขียนว่าสนามบิน ถ้าหลงก็พยายามหาป้ายนี้แล้ววนกลับมาเริ่มใหม่ ฮาๆๆๆ


ดู ลุยเดี่ยวเที่ยวใต้ ภาค 7 :: ตอนที่ ภูเก็ต ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
วนไปวนมาดูสภาพบ้านเมืองต่างๆ ผมว่าตึกเค้าสวยนะ สวยแบบมีลวดลายศิลปะปนมาด้วยอะ อารมณ์ไม่ใช่แค่ตึกเรียบๆ เหมือนกับในกรุงเทพฯ แต่ว่าต้องมีลายปูนปั้นหรือลายตกแต่งสวยๆ เก๋ๆ ตามซอกหรือมุมต่างๆ อย่างน้อยก็ซักนิดนึงอะ ,, กับอีกอย่างที่ผมชอบคือสวนสาธารณะสะพานหิน ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ติดทะเล แถมบรรยากาศโคตรดี จินตนาการแบบว่าเราเดินช้าๆ ท่ามกลางสวนสนแล้วก็มีลมทะเลซัดมาเบาๆ ว่างๆ ก็จะมีสาวๆ วิ่งออกกำลังกายผ่านมาด้วย


แต่ที่เจอประจำในทริปนี้คือฝนตกครับ ,, ตกอีกแล้วที่ภูเก็ต

ฝนอย่าเพิ่งตกเยอะ ,, เรายังเหลือภารกิจอยู่นะ!!!
มาหาอะไรแบบภูเก็ตๆ กินต่อ
หลังจากซัดติ่มซำมาเต็มหลอดตะกี้ เดี๋ยวก็จะไปหาอะไรกินต่อครับ ก็มีคนแนะนำว่าต้องมาภูเก็ตก็ต้องกินอะไรที่มีเฉพาะภูเก็ตสิ (เอ่อ ก็จริงแฮะ มาภูเก็ตจะกินน้ำพริกหนุ่มก็กะไรอยู่) โดยคราวนี้คีย์เวิร์ดที่ผมได้มาจากเจ้าถิ่นคือ โอ้เอ๋ว, อาโป้ง, โลบะ, ปอเปี๊ยะภูเก็ต และบะกุ๊ดเต๋ ,, ไอ้บะกุ๊ดเต๋นะเคยกิน แต่ไอ้สองสามอันหน้าน่ะไม่รู้จริง แถมชื่อจำยากมาก ท่องประมาณแปดรอบถึงจะพอได้เค้าโครงบ้าง เอิ้กๆๆๆ
ถามคนภูเก็ตที่เดินข้างถนนเค้าบอกว่า “ผ่านตลาดเก่ามาแถวๆ แยกดีบุกจะมีร้าน…(คือเค้าบอกชื่อร้านมาแล้วอะนะ ในขณะจิตนั้นจำชื่อไม่ได้)..ขายพวกนี้อยู่ น้องลองไปกินได้” ,, เออ ทางก็ไม่รู้ ถนนก็งงๆ ก็ขับมาเรื่อยๆ ละ หลงก็ไปเริ่มใหม่ ,, แต่ในจุดนี้ต้องกราบของพระคุณ Google maps และ Fouresquare มากๆ ครับ มันทำให้เห็นว่าเจ้าสองอย่างนี้มีประโยชน์มากๆ ขณะเราอยู่ต่างแดน โดยเฉพาะ Foursquare ที่มักจะเห็นคนเอามาเก็บ Badge อย่างเดียวนี่ผมว่ามีประโยชน์แบบสุดๆ นอกจากที่มันมีแผนที่แล้ว มันก็ยังเหมือนเป็น Review เล็กๆ ของคนที่เคยมากินมาเที่ยวก่อนหน้านี้นะ ,, ยังไงก็ฝาก Mayor ช่วยวาง maps แม่นๆ ด้วยนะคร้าบบบบ
เออๆๆ ถึงละๆๆ คงเป็นร้านนี้ละกระมัง ,, ลกเที๊ยน อาหารภูเก็ต (ดูตามชื่อเห็นมีโลบะแว๊บๆ)


มาถึงแบบงงๆ ก็ไม่รู้จะสั่งอะไรแบบงงๆ … แต่เท่าที่สังเกตที่นี่มันคล้ายๆ ว่าที่นี่จะเอาอาหารภูเก็ตเก๋ๆ หลายๆ ร้านที่อยู่คนละที่มาเปิดรวมกันตรงนี้ที่เดียว คงกะให้เป็นศูนย์รวมแห่งอาหารภูเก็ตประมาณนั้น ,, แม้ว่าติ่มซำยังเหลือเต็มกระเพาะ แต่ผมก็จัดหนักครับ เอามาแม่งหมดตามคีย์เวิร์ด ทั้งโลบะ โอ้เอ๋ว บะกุ๊ดเต๋ (คนจดเมนูคงงงๆ มากๆ แถมจดเสร็จหันหน้ามาถามกรูด้วยว่า โอ้เอ๋วใส่อะไรบ้างครับ ,, แล้วกรูจะรู้ไหมละครับนั่นว่าปกติพวกพี่ๆ กินกะอะไร) ,, สุดท้ายคนจดเมนูวิ่งกลับมาบอกว่าที่สั่งไปได้แค่โอ้เอ๋วอย่างเดียว ที่เหลือยังทำไม่เสร็จ อารมณ์มากินที่ร้านเช้าไป (ตอนนั้นก็เกือบ 11 โมงแล้วนะ) ถือว่าเป็นโชคดีของกระเพาะกรูจริงๆ ไม่งั้นคงอ้วกกระจาย เอิ้กๆๆๆๆ
เอ้าๆ โอ้เอ๋วมาละ ,, มันคืออะไร กินยังไงฟระ


คำแรกที่ได้กินโอ้เอ๋วนี่ประมาณวุ้นแบบนิ่มๆ เข้าปากแล้วแตกตัวกระจายกลายเป็นวุ้นร่วนๆ ทันที โอ้เอ๋วมันไม่ได้หยุ่นๆ เหมือนคุณสุทธิชัยหรือเฉาก๊วยชากังราวแต่อย่างใด ,, แต่สิ่งที่ผมรู้สึกจากการกินโอ้เอ๋วนี่คือ “เย็น” มันคงถูกออกแบบสำหรับการกินดับร้อนมากๆ อารมณ์อากาศร้อนๆ หรือว่าเล่นกีฬามาเหนื่อยๆ ได้ซัดโอ้เอ๋วซักถ้วยนี่คงเปรมน่าดู
หลังจากสืบไปสืบมาก็ทราบว่าโอ้เอ๋ว เป็นอาหารหวานได้จากวุ้นของเมล็ดโอ้เอ๋ว (คล้ายเมล็ดแมงลัก) ที่แช่น้ำ ผสมกับกล้วยน้ำว้า (กินไปไม่รู้สึกว่ามีกลิ่นกล้วยเลย) ใส่เจี่ยกอ (คืออะไรวะนั่น) เพื่อให้โอ๊ะเอ๋วเกาะตัวเป็นก้อน แล้วจึงนำมาใส่น้ำเชื่อมและน้ำแข็งใส โอ้เอ๋วเป็นอาหารที่มีเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ที่นี่มีร้านขายโอ้เอ๋วสองร้านที่รู้จักกันดี คือ โกโรจน์และแป๊ะเอ้ง (แปลว่าร้านที่เราไปกินนี่เป็นร้านที่รู้จักกันไม่ดีนี่เอง)
อิ่มท้องแล้ว ,, ก็เดินทางกันต่อ
อิ่มแล้วก็เตรียมเดินทางไปเที่ยวกันต่อครับ ,, คงหวังว่าผมจะพาไปเที่ยวหาดสวยๆ ดูฝรั่งนุ่งน้อยห่มน้อยที่ภูเก็ตละซี่…. ผิดละคร้าบ เราจะไปตรังกันตามแพลน ,, ไว้คราวหน้าเตรียมตัวมาภูเก็ตให้พร้อมแล้วจะลุยแหลกให้ดู
โดยรถบขส. จากภูเก็ตไปตรังนั้นมีตั้งแต่เช้ามืดประมาณตีสี่ตีห้า ไปจนถึงสองสามทุ่มครับ ,, ใครจะไปก็คำนวณดีๆ นะครับ บวกเวลาการเดินทางไปเลยหกชั่วโมง ,, เพราะที่ตรังไม่ใช่กทม. ที่จะมีรถวิ่งทั้งคืนนะ แค่ห้าหกโมงก็ไม่ค่อยมีรถโดยสารวิ่งแล้ว ถ้าใครมารอบสามทุ่มก็แปลว่าถึงตรังตีสาม… ช่วยเหลือตัวเองนะจ๊ะ

เอาว่าไปตรังกันครับ ,, จังหวัดสุดท้ายของทริปนี้แล้ว