ในช่วงวันหยุดสั้นๆ หากเราเลือกที่ไปท่องเที่ยวใกล้ๆ เพื่อพักผ่อนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างแดนบ้างมันคงมีความสุขดี ,,
ครับ… วันนี้ผมก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนอีกครั้ง ,, แม้ว่าผมเคยไปปายมาหลายครั้ง แต่ละครั้งที่ไปมันก็มีความเปลี่ยนแปลงที่เป็นตัวเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ,, แต่วันนี้ที่ผมจะไปคือส่วนของอำเภอแม่ลาน้อยครับ ซึ่งจะเป็นอีกฝั่งของแม่ฮ่องสอน (ถ้าปายจะขึ้นเหนือจากเชียงใหม่ แต่แม่ลาน้อยจะไปทางตะวันตก) ซึ่งที่นี่ยังมีความสงบและธรรมชาติที่ถูกรบกวนจากชุมชนเมืองไม่มากนัก

ก่อนไปขอกางแผนที่ กำหนดเส้นทางและจุดเที่ยวต่างโดยภาพรวมก่อนนะครับ
View เที่ยวแม่ลาน้อย in a larger map
พร้อมแล้วก็เดินทางกันเถอะครับ
เดินทางไปแม่สะเรียงก่อน
เท่าที่ผมพอทราบ ถ้าต้องการเดินทางไปแม่ลาน้อยแล้ว หากไม่ได้เดินทางด้วยรถส่วนตัวแล้วก็จะมีรถตู้และรถเมล์บริการไปแม่สะเรียงแล้วถึงต่อรถไปอีกที ,, ส่วนตัวผมแนะนำรถตู้มากกว่า เพราะใช้เวลาน้อยกว่า จากเชียงใหม่ไปถึงแม่สะเรียงจะใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงครึ่ง (ส่วนขาลงจากแม่สะเรียงมาเชียงใหม่จะใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง) ค่าบริการ 200 บาท แถมถุงใส่อ้วกและน้ำดื่ม 1 ขวด ,, ส่วนรถเมล์ (ไม่แอร์) นั้นค่าบริการถูกกว่า (ไม่ถึงร้อย) แต่จะใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่งหรือนานกว่านั้น

เราสามารถขึ้นรถตู้ได้ที่ท่ารถเปรมประชา สถานีขนส่งอาเขต (เชียงใหม่) โดยรถตู้จะพาเราไปตามทางสีส้ม (ตามแผนที่ข้างบน) ผ่านอำเภอหางดง-สันป่าตอง-จอมทอง-ฮอด โดยตรงที่ฮอดเราจะมีโอกาสพักประมาณ 10-15 นาที ,, การเดินทางจากเชียงใหม่มาฮอดเป็นเพียงแค่การเรียกน้ำย่อยเท่านั้น เพราะหลังจากฮอดเราจะเข้าส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่อุดมภูเขาและทางโค้งอันวิจิตรพิสดาร


ถ้าใครเมารถก็แนะนำว่ากินยาตั้งแต่เชียงใหม่แล้วหลับไปเลย แต่ท่านก็จะพลาดวิวสวยๆ ระหว่างทางที่ผ่านภูเขาที่มีความสูงกว่า 1000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทั้งป่าสนเขาที่กิ่วลมและต้นไม้เปลี่ยนสีหน้าแล้ง เปลี่ยนในระดับที่ว่าแดงไปทั้งภูเขา ฯลฯ แอบเสียดายเบาๆ ที่ขึ้นรถตู้ไป ไม่งั้นก็คงจะลงไปถ่ายรูปได้เยอะกว่านี้แฮะ

หลังจากผ่านโค้งมามากมายก็ถึงส่วนที่เป็นแม่สะเรียงแล้ว บรรยากาศเมืองดูสงบเงียบ วัดวาอารามต่างๆ ก็มีกลิ่นไอของวัฒนธรรมพม่าปะปนมาด้วย เสียดายที่อยู่แม่สะเรียงไม่นาน เพราะต้องรีบไปแม่ลาน้อยต่อ เพราะเย็นมากแล้ว

ต่อรถไปแม่ลาน้อยกันเถอะครับ เดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน…

แล่นฉิวสู่แม่ลาน้อย และเฮินไต
จากนั้นเข้าสู่แม่ลาน้อยด้วยรถส่วนตัว (พอดีมีเพื่อนมารับ) แล้วก็พักที่รีสอร์ทที่ชื่อเฮินไตครับ

แม้อากาศช่วงนี้จะยังคงหนาวเย็นอยู่บ้าง แต่การต้อนรับที่รีสอร์ทเฮินไตนี่อบอุ่นมากๆ ประทับใจตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว



ที่เฮินไตเป็นรีสอร์ทแนวที่ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและความเป็นธรรมชาติ แถมยังเป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ของแม่ลาน้อยได้ไม่ไกลนัก ,, รวมทั้งมีกิจกรรมหลายๆ อย่างภายในรีสอร์ท อาทิ การจัดปิ้งย่างง่ายๆ ที่ลานซึ่งเป็นส่วนที่แยกออกมาต่างหาก หรือดึกหน่อยจะเปลี่ยนมาดูดาวแทนก็ได้ หรือจะดูผลิตภัณฑ์จากชาวเขาทั้งผ้าทอมือและกาแฟสด

ที่เฮินไตมีห้องบริการทั้งสิ้น 11 ห้อง แบ่งคร่าวๆ เป็นห้องเดี่ยวสำหรับสองคนและห้องสองชั้นสำหรับสามคน สนนราคาที่พักก็ดูได้ตามนี้ครับ
โดยห้องเดี่ยวสองคนจะมีข้อดีตรงที่เตียงจะกว้างกว่า และก็มีระเบียงที่เปิดออกไปด้านหลังพบกับวิวสวยๆ ได้ ,,


ส่วนห้องสามคนจะมีเตียงแยกชั้นบนและชั้นล่าง และสามารถเปิดหลังคาไปดูวิสส่วนด้านหน้ารีสอร์ทได้ ,, แต่ละห้องของที่นี่มีบริการน้ำอุ่นให้พร้อม หรือใครชอบแบบห้องแอร์ก็มีนะครับ (แต่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกนิดหน่อย)



แค่เที่ยวในรีสอร์ทเฮินไตก็สนุกมากๆ แล้วครับ ทั้งนั่งกินปิ้งย่าง+ผิงไฟตรงลานกิจกรรม, นอนดูดาว, เช้าก็ตื่นมาดูอาทิตย์ขึ้น ปั่นจักรยานรอบๆ หมู่บ้าน สายหน่อยก็จิบกาแฟหรือจะกินอาหารเช้าก็ได้






ส่วนตัวผมว่าช่วงที่มาเฮินไตกำลังดีคือช่วงต้นหนาวหรือปลายๆ ฝน เพราะช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ข้าวออกรวงสวย (แต่ช่วงที่ผมไปเค้าปลูกถั่วกันอยู่ ต้นเลยเตี้ยๆ ไม่สวยมากเท่าไหร่) มีหมอกหนาตลอด (ช่วงนี้หมอกเริ่มบางแล้ว) อากาศเย็นกำลังดี เอาเป็นว่ารายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อที่รีสอร์ทเลยครับ ที่ 053-689033 หรือจะไปเยี่ยมชมเว็ปไซท์ก่อนก็ได้นะครับ
เที่ยวเฮินไตยังไม่เท่าไหร่ เราจะไปลุยแม่ลาน้อยกันต่อแล้วครับ เดี๋ยวจะหมดวันเสียก่อน 🙂
ตะลุยแม่ลาน้อยกัน
ได้อาหารเช้าพออยู่ท้อง ก็เตรียมไปเที่ยวกันต่อครับ ก่อนอื่นก็ขอกางแผนที่อีกที ,, โดยที่วันนี้จะเดินทางไปกันจะเป็นเส้นทางสีเขียวนะครับ มี 2 ที่ที่จะไป คือหมู่บ้านห้วยห้อมและถ้ำแก้วโกมล
View เที่ยวแม่ลาน้อย in a larger map
คนพร้อม รถพร้อม ก็ลุยกันไปได้เลย

หมูบ้านห้วยห้อม :: หมู่บ้านกาแฟ
จากเฮินไต ขับรถมาอีก 30 กม. ฝ่าผ่านภูเขาสูงกว่า 1200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ผ่านโค้งกว่าร้อยโค้ง ทั้งทางถนนเรียบ ถนนขรุขระ และดินลูกรัง ,, สุดท้ายก็มาถึงบ้านห้วยห้อมครับ ชาวบ้านที่นี่เป็นปกากะญอเป็นหลักครับ มีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตัวเอง แต่ก็พูดภาษาไทยได้บ้างครับ



บ้านห้วยห้อมมีชื่อเสียงเรื่องการปลูกและผลิตกาแฟครับ เมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิกาที่ปลูกที่นี่ได้ถูกทาง Starbucks ซื้อและเอาไปจำหน่ายในชื่อของ “กาแฟม่วนใจ๋” ที่มีชื่อเสียงและโด่งดังไปทั่วโลก ตัวกาแฟกลิ่นหอมและนุ่มละมุนเฉพาะตัว เรียกว่าไม่ต้องเติมน้ำตาลก็ให้รสชาติที่สุดยอดมากๆ ซึ่งถ้ามาที่นี่ก็สามารถทำกาแฟสดเองและชิมมันได้ด้วย





อยากรู้ว่าเค้าปลูกกาแฟกันยังไง เลยแอบไปเยี่ยมสวนกาแฟเสียหน่อย ,, เรียกว่า ปลูกกาแฟกันเป็นดอยเลยทีเดียว (ระหว่างเดินขึ้นดอยไปดูนี่เหนื่อยมากๆ)



นอกจากกาแฟ ชาวบ้านก็มีปลูกข้าวเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ทั่วๆ ไปแล้ว ที่นี่ยังมีการเลี้ยงแกะด้วย



โดยขนแกะที่นี่จะถูกทอเป็นผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆ มีแบบทั้งขนแกะล้วน หรือจะทอสลับกับผ้าฝ้ายก็มีครับ ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งสำคัญที่ส่งผ้าขนแกะลงไปให้ชาวเราเลยทีเดียว ,, ยิ่งกว่านั้นที่ยังรับโฮมสเตย์ด้วย เอาเป็นว่าถ้าสนใจก็ติดต่อรีสอร์ทเฮินไตละกันครับ

ร่ำลาบ้านห้วยห้อมกับคุณยายท่านนี้ครับ ดูแก่มาก แต่แกยังพอเดินได้เอง (ใช้ไม้เท้าช่วยเล็กน้อย) แข็งแรงดีจัง

ไปถ้ำแก้วกันต่อ
ถ้ำแก้วอยู่ไม่ไกลจากเฮินไตมากนัก แค่ลัดออกทางถนนเข้าโรงพยาบาลแม่ลาน้อยอีกซัก 3-4 กม. (ตามเส้นสีเขียวที่ขึ้นไปทางข้างบน) ก็ถึงตัววนอุทยานแก้วโกมลแล้ว


แต่เมื่อมาถึงวนอุทยานแล้วมันยังไม่ถึงตัวถ้ำนะครับ ทางวนอุทยานจะมีรถพาไป (จากแผนที่คือเส้นทางสีเทา) เพราะทางค่อนข้างแคบและชันมาก โดยค่าเข้าชมถ้ำ (รวมค่ารถแล้ว) 40 บาท ครับ


ถ้ำแก้วโกมลถูกพบโดยบังเอิญเมื่อปี 2536 ขณะกำลังเจาะทำเหมืองแร่ และได้เปิดเข้าเยี่ยมชมได้ในปี 2543 โดยผลึกแร่ภายในเป็นผลึกแคลไซต์ ซึ่งเป็นเกลือของแคลเซียมคาร์บอเนต โดยลักษณะการเกิดผลึกแคลไซต์เกิดจากการการกลั่นตัวของแร่ ซึ่งเชื่อว่าบริเวณนี้ในอดีตเป็นทางเดินของน้ำพุร้อนใต้ดินที่ชะเอาแร่เหล่านี้มา โดยในโลกนี้มีถ้ำที่เป็นผลึกแร่แคลไซต์ในลักษณะนี้เพียง 3 ที่เท่านั้นคือที่ประเทศจีน, ออกเตรเลีย และที่นี่
เที่ยวทั้งวัน เหนื่อยมากๆ แต่วันนี้ก็มีความสุขมากๆ ด้วย 🙂
ถึงเวลากลับบ้าน
แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็สดชื่นและมีความสุขแบบไม่น่าเชื่อ ชีวิตที่ไม่มีเซเว่น ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีแสงสีก็อยู่ได้ และบางครั้งอาจมีความสุขมากกว่าด้วยซ้ำ จนรู้สึกว่าไม่อยากให้เป็นสิ่งที่เรียกว่าสังคมเมืองมารุกรานดินแดนที่แสนสงบแห่งนี้เลย ,, ถ้ามีโอกาส (และพร้อมใจฝ่าโค้งและภูเขาสูง) ก็อยากจะมาพักผ่อนที่นี่บ่อยๆ แฮะ

ตอนนี้ ผมชักหลงเสน่ห์แม่ฮ่องสอนไปทุกวันแล้วสิ
ทริปนี้คุ้นตาจริงๆ
ว่าแต่อ้วกหรือเปล่าเนี่ย
ไม่อ้วกครับ แถมระหว่างนั่งรถไม่หลับด้วย นั่งเก็บภาพบนรถตู้ได้นิดหน่อย
สวย ชิล อิจฉา
สุดยอดอ่ะพี่ตง ทำได้ไง ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วสนุกดี อิอิ
สวยอ้ะๆๆๆๆ
sweet mak na ja !!!
งานนี้นางแบบยอมสวยน้อยกว่าแม่ลาน้อยละกัน
น่าไปๆ
ภาพสวยจัง อยากไปบ้างงงงงงง
ชอบๆ จริงๆ พี่สาวจ๋าอยู่แม่เสรียงล่ะ แต่ไม่เคยไปไกลกว่านั้นเลย ไว้่จะหาโอกาสไป
มาเที่ยวหากันใหม่นะครับผม
ชอบบรรยากาศและทิวทัศน์ ตลอดจนเฮินไตรีสอร์ทที่เป็นแบบประยุกต์เชิงอนุรักษ์
ขอบคุณกับข้อมูลครับ.. ผมเคยมาพัก”เฮินไต” 2 ครั้ง (ห้องที่มีเตียงและระเบียงข้างนอกตามภาพนั่นแหละ..ข้างนอกมีเตียงหวายตัวใหญ่ไว้นอนดูดาวด้วย)ผมติดใจ “น้ำพริกอ่อง” สูตรเฮินไตมากๆ..”น้องเนส”หนุ่มเจ้าของอัธยาศัยดีมากต้อนรับขับสู้ได้ดีจริงๆนะ (ขอบอก)… ผมได้ขับรถเก๋งขี้นไปเที่ยวบ้านห้วยห้อม(ตามที่น้องเนส)แนะนำ..แต่เสียดายจริงๆครับ..ที่ได้ถามชาวบ้านว่าเหลืออีกแค่ประมาณ 3 กิโลเมตร(เกือบจะถึงห้วยห้อมอยู่แล้ว)ถนนลาดยางดันไปสิ้นสุดเสียก่อนและต่อด้วยถนนลูกรัง..ขลุขละ..(หินก้อนเป้งๆทั้งนั้น..จึงตัดสินใจไม่ไปต่อ..) มิทราบว่าตอนนี้เขาลาดยางแล้วหรือยังครับ ? ปลายปีนี้..จะไปห้วยน้ำดังผ่านปายมาทางแม่ฮ่องสอน เข้าบ้านรักไทย+ปางอุ๋ง อ้อมมาทางขุนยวม+ดอยแม่อูคอ ลงมาทางแม่ลาน้อย-แม่สะเรียง..ไปสัมผัสแม่น้ำแม่เงา..ครับ.. ขอบคุณมากๆครับ..จากคนชลบุรี