Blog ครั้งนี้จะพาไปสัมผัสขนมที่เป็นที่ฮิตฮอทในตอนนี้ (ทั้งๆ ที่มันมีมานานแล้ว) คือ ทาร์ตไข่นั่นเอง โดยวันนี้จะพาชิมทาร์ตไข่กัน,, โอวๆๆ พูดแบบนี้จะบอกว่าผมเคยเขียนรีวิวทาร์ตไข่ของ KFC ไปเมื่อ Entry ก่อนแล้วนี่นา จะมาหากินเรื่องเดิมใช่ไหม ,, จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกหรอกครับ เพราะวันนี้นอกจากทาร์ตไข่ของ KFC แล้ว ยังจะพาชิมของเจ้าอื่นๆ เท่าที่หาเจอด้วย
หาไปหามา รวมๆ แล้วได้ทาร์ตไข่มา 5 เจ้าน่ะครับ

รับรองว่าวันนี้ หน้าจอมีเลี่ยนตายไปข้างนึง แผลบๆๆๆ
เรื่องเล่าทาร์ตไข่ก่อนเข้าปาก
ก่อนที่จะไปเจอของจริงวันนี้ ก็ของเล่าเรื่องวันวานของทาร์ตไข่ก่อนละกัน แผลบๆๆๆ

ทาร์ตไข่มีต้นกำเนิดจากร้านเบเกอรี่สักเจ้านึงที่ฮ่องกง ประมาณช่วงปีค.ศ.1940 กว่าๆ โดยสมัยนั้นเป็นช่วงที่เบเกอรี่เริ่มต้น แต่ยังสู้พวกร้านติ่มซำไม่ได้เนื่องจากคนฮ่องกงยังติดการกินน้ำชาคู่กับติ่มซำอยู่ จนถึงช่วงราวปี ค.ศ.1950 จึงมีคนเริ่มเอาทาร์ตไข่ไปกินกับน้ำชา ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนถึงปัจจุบันนี้ ,,
แต่ก็มีบางคนบอกว่าจริงๆ ทาร์ตไข่เกิดจากการเอา Custard English tarts มาประยุกต์ให้เป้นแบบจีนๆ โดยเฉพาะทางฝั่งของฮ่องกงที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อน จึงได้รับอิทธิพลไปแบบเต็มๆ ,,
หรือบางคนก็บอกว่า จริงๆ ต้นกำเนิดของทาร์ตไข่เกิดจากขนมทาร์ตไข่ของชาวโปรตุเกส ซึ่งโปรตุเกสใช้ชื่อขนมนี้ว่า pastel de nata โดยโปรตุเกสได้ส่งต่อขนมชนิดนี้ผ่านมาทางมาเก๊า แล้วจากนั้นมันก็แพร่หลายต่อมายังย่านเอเชียตะวันออก,,
… ฟังประวัติแล้วยาวไกล มาล่าขนมทาร์ตไข่เมืองไทยนี่แหละ
ไล่เรียงหาซื้อแต่ละร้าน
แอ่น แอน แอ้นนนนน หลังจากเดินตระเวนย่านสยามและห้างสรรพสินค้างชื่อดังต่างๆ ก็ได้ทาร์ตไข่ใส่ Packaging มาดังนี้ละครับ มีทั้งแบบใส่กล่อง ใส่ถุงมากันเพียบ

เอาเป็นว่า ไล่ทีละร้านเลยละกันนะครับ
ร้าน BreadTalk
ร้าน BreadTalk เป็นร้านขนมปังที่มีจุดเริ่มต้นจากประเทศสิงคโปร์ จากนั้นเค้าก็มาเปิดสาขาในบ้านเราหลายสาขาครับ ,, ร้านนี้ผมเดินหาทาร์ตไข่นานเหมือนกัน เพราะบางสาขาก็ไม่มีขาย

ร้าน BreadTalk ลักษณะทาร์ตไข่จะเป็นทรงกว้างๆ วางอยู่บนฟอยล์อีกทีหนึ่ง เมื่อจ่ายเงินซื้อเค้าจะให้ Packaging มาเป็นถุงพลาสติกห่อทาร์ตไข่ไว้ ไม่ได้มีกล่องใส่แต่อย่างไร (แต่หิ้วไปหิ้วมาก็ไม่ได้มีแตกอะไร ซึ่งแปลกใจมาก) ,, สนนราคาค่าเสียหายต่อชิ้นของทาร์ตไข่ที่ BreadTalk ราคา 28 บาท

เริ่มจากแป้ง แป้งที่นี่รสชาติหอมหวานดี อารมณ์เนื้อคุกกี้แบบหอมจางๆ กล่าวคือลักษณะแป้งมันจะออกแนวเป็นแป้งทาร์ตมากกว่าที่จะเป็นแป้งพาย ซึ่งข้อดีของมันคือเมื่อเราทิ้งทาร์ตจนเย็น แป้งก็จะยังเหมือนเดิม แต่ข้อเสียก็คือแป้งจะออกแนวร่วนๆ หน่อย จะไม่ค่อยเกาะตัวเหนียวแน่น ถ้าแกะฟอยล์ออกมารับรองว่ามีการกระจายของแป้งออกมาแน่นอน

ส่วนตัวใส้ไข่ก็ถือว่าโอเคเลยนะ หอมหวานโอเคดี ไม่เลี่ยนมากอย่างที่คิด และก็ไม่เละมากหรือแฉะๆ ด้วย คงรูปของตัวใส้ได้ดี จะว่าไปก็คล้ายๆ กับคัสตาร์ดแข็งๆ หน่อยนะ เข้ากับแป้งได้ดี โดยรวมถือว่าใช้ได้ทีเดียว


เนื่องจากการออกแบบทาร์ตไข่ของ BreadTalk ให้ออกแนวแบนๆ อีกทั้งแป้งก็ร่วนโดยเฉพาะจังหวะที่พยายามบีบฟอยล์เพื่อจะเอาทาร์ตออกมานั้นค่อนข้างยาก ส่วนตัวผมแนะนำว่าใช้ช้อนตักครับ สะดวกและกินง่ายเป็นที่สุด

Saint Etoile
ร้านนี้ Saint Etoile (อ่านว่าแซง-เอ-ตัวล) เป็นร้านเบเกอรี่ในเครือของ Yamazaki น่ะครับ เค้าบรรยายว่า Saint Etoile จะทำขนมปังแนวปารีส และเน้นขนมปังพวก Hard Bread มากกว่าร้านอื่นๆ ที่จะเป็น Soft bread ซะมากกว่า ,, ในร้านมีขายเบเกอรี่หลายสิบหลายร้อยอย่างมากๆ เดินไปเดินมาผมก็เผลอไปหยิบขนมอื่นๆ มาด้วยเหมือนกัน ,, แต่ก็ไม่ลืมที่จะสอยทาร์ตไข่มาด้วยนะ สนนราคาชิ้นละ 28 บาทครับ

ทาร์ตไข่ของ Saint Etoile ลักษณะเป็นทาร์ตทรงสูง ห่อด้วยกระดาษหนาสีขาว (สังเกตว่ากระดาษห่อทาร์ตมันมากๆ) หากจะซื้อเค้าจะเอาทาร์ตเราใส่กล่องพลาสติกให้ก่อนชั้นนึง แล้วจะเอาใส่ถุงหิ้วลายเอกลักษณ์ประจำร้านให้อีกต่อ ซึ่งอยากบอกว่ากล่องพลาสติกนั้นขนาดพอดีมากๆ และกันกระแทกได้สุดๆ ไปเลย


แป้งที่นี่จะเป็นแป้งทาร์ตคล้ายๆ กับ BreadTalk คือจะร่วนๆ หน่อย ซึ่งส่วนตัวผมว่าร่วนกว่าของ BreadTalk อีกนะ (แต่ได้กล่องพลาสติกกันกระแทกได้ดีมากโข) กลิ่นหอมละมุนเฉพาะตัวของตัวแป้งถือว่าอร่อยไม่แพ้กับ BreadTalk เลยทีเดียว ,, ส่วนตัวใส้ทาร์ตข้างหน้าจะดูแห้งๆ นิดนึง ไม่ค่อยมันวับเหมือนเจ้าอื่นๆ ซักเท่าไหร่

หลังจากฉีกกระดาษและหั่นออกมา พบว่าใส้ค่อนข้างอัดแน่นกว่าแถมมีใส้เยอะกว่าเจ้าอื่นๆ ด้วย ตัวใส้ทำได้สุกเนียนดีทั้งอัน สังเกตดีๆ จะมีน้ำหวานๆ ไหลซึมมาจากใส้บริเวณก้นของทาร์ต ,, ลองชิมดูรสชาติเลี่ยนปานกลาง หวานกำลังโอเคเลย แถมมีกลิ่นหอมๆ อารมณ์คล้ายๆ เทียนอบจางๆ หรืออะไรซักอย่างนี่แหละ หอมดีครับ


เวลากินแนะนำว่าไม่ต้องฉีกกระดาษออก แต่เอาช้อนตักลงไปในทาร์ตได้เลย
Mandarin Oriental
ร้าน Mandarin Oriental ดูภายนอกจะคล้ายๆ ร้านอาหารที่แอบมีเบเกอรี่แซมๆ อยู่ แต่เข้ามาดูจริงๆ ในร้านจะมีทาร์ตไข่ใส่ฝาปิดแก้วอย่างสวยไว้รออยู่เลย ดูหรูมากๆ ข้างๆ ไม่ได้เขียนว่าทาร์ตไข่แบบบ้านๆ นะ แต่เธอระบุตัวตนว่า Portugese custard tarlette อะ ,, ไม่รู้ว่าใช่ทาร์ตไข่หรือเปล่าแต่เอามารีวิวด้วยกันนี่แหละ

ทาร์ตไข่ของ Mandarin Oriental จะออกแนวเจ้าๆ หน่อย ตัวขนมชิ้นไม่ใหญ่ วางบนกระดาษรองชั้นนึง เวลาซื้อกลับบ้านพนักงานจะเอาใส่ถุงกระดาษให้ (ไม่มีการห่อพลาสติกเพิ่มข้างใน) จากนั้นก็มีถุงกระดาษไฮโซเอาไว้หิ้วอีกชั้น ,, สนนราคาทาร์ตไข่ชิ้นละ 35 บาท

แป้งของที่ Mandarin Oriental จะเป็นแป้งพาย ซึ่งมันจะอร่อยที่สุดตอนร้อนๆ เพราะจะหอมและกรอบได้ใจมากๆ แต่ถ้าปล่อยให้แป้งพายเย็นเมื่อไหร่ มันจะออกแนวเหนียวๆ คล้ายๆ แป้งโรตีที่ปล่อยไว้จนเย็น ซึ่งแป้งทาร์ตไข่ของที่นี่ หลังจากที่ผมปล่อยไว้ให้เย็นแล้วมากินอยากบอกว่าเหนียวที่สุดในบรรดาทุกร้าน

ส่วนตัวใส้มันดูแปลกไปจากยี่ห้ออื่นๆ ตั้งแต่ดูตัวใส้ก็จะออกเป็นครีมเจลใสๆ มากกว่าที่จะเป็นครีมมันข้น พอลองชิมรสจะเป็นแนวหวานๆ มากกว่าที่จะมันเลี่ยน (จนคิดว่าถ้าใครไม่ค่อยชอบหวานนี่ควรระวังนิดนึง) และก็มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ/สมุนไพรบางอย่างที่ผมไม่สามารถ identify ได้ อารมณ์ประมาณเอเชียๆ หน่อย แนวกลิ่นหอมเย็นๆ (ผมนั่งคิดกลิ่นนี้นานมาก คิดไม่ออกซักที มันเหมือนติดปากอยู่นี่แหละ) กลิ่นนี้ส่วนตัวผมว่ามันตัดกับอารมณ์เลี่ยนได้ดีนะ



โดยรวมถือว่าแปลกไปจากเจ้าอื่นๆ แต่ถ้าว่าแปลกยังไงต้องลองชิมเองครับ
Kanom
Kanom เป็นร้านทาร์ตไข่เจ้าแรกที่ผมรู้จัก ลักษณะเด่นของร้าน Kanom คือมีแยกระหว่างทาร์ตไข่แดงและทาร์ตไข่ขาว ซึ่งผมก็สอยมันมาทั้งสองแบบเลยวันนี้ หากซื้อทาร์ตไข่ร้าน Kanom จะมีกล่องขนาดกำลังพอดีตามกับจำนวนที่ซื้อ ซึ่งผมซื้อ 2 ชิ้นก็มีกล่องสีชมพูบานเย็นมาให้ แล้วรัดด้วยยางรัดที่เป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน ,, ร้าน Kanom ขายทาร์ตไข่ชิ้นละ 40 บาท (แต่ถ้าใครแค่อยากชิมเดี๋ยวนี้เค้ามีมินิทาร์ท ขนาดเล็กลง ราคาลดลง)



เริ่มที่แป้งของ Kanom เป็นลักษณะคล้ายแป้งพายกรอบๆ ถ้ากินตอนร้อนๆ จะกรอบหอมอร่อยมากๆ ,, แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็อย่างที่บอกแหละครับว่ามันจะออกแนวเหนียวๆ หน่อย (แต่ Kanom นี่เหนียวน้อยสุดแล้ว) แต่ผมว่าแป้งของ Kanom หอมเนยมากๆ อร่อยถูกใจผมเลยทีเดียว

จากนั้นเริ่มที่ทาร๋ตไข่ขาวก่อนละกัน ,, ตัวใส้แค่ดูก็พอรู้นะว่าเป็นไข่ขาวอะ ลักษณะมันจะแนวใสๆ หน่อย แบบกระจกๆ ถ้าดมกลิ่นจะมีกลิ่นซัลเฟอร์อยู่ (ถ้าคิดไม่ออกให้คิดถึงกลิ่นน้ำพุร้อน) แต่ก็แค่จางๆ นะ กัดแล้วใส้อร่อยดี เนื้อเด้งๆ หยุ่นๆ ไม่ค่อยเลี่ยน กินแล้วเพลินๆ ดี



ส่วนทาร์ตไข่แดงก็จะเป็นอะไรที่แนวตรงข้ามกันเลย เพราะตั้งแต่รูปลักษณ์ที่ดูก็รู้ว่ามัน-ข้น-มาก พอได้ตักชิมสิ่งแรกที่โดยผมคือกลิ่น กลิ่นมันหอมไข่แดงคล้ายๆ ไข่แดงที่เราดูดตอนกินไข่ดาวมาเลย แต่นี่ข้นกว่ามาก ข้นจนเรียกว่าเป็นครีมคัสตาร์ดข้นคลั่กเลยทีเดียวหากใครชอบกินแบบมันๆ หรือออกแนวเลี่ยนๆ หน่อยนี่จะสะใจอารมณ์มากๆ



Kanom ก็ยังทำให้ผมประทับใจไม่มีเปลี่ยน
KFC
ร้านไก่ทอดอะไรก็ไม่รู้ ทาร์ตไข่ขายดีมากๆ บางคนเห็นมาซื้อแค่ทาร์ตไข่อย่างเดียว จริงๆ ก็เคยกินและรีวิวเอาไว้แล้วด้วย ซึ่งผมว่ามันก็โอเคนะ ใช้ได้เลย แถมไม่แพงด้วย ชิ้นละ 25 บาทครับ ,, วันนี้ก็เลยจัดทาร์ตไข่ของ KFC มาอีก ซึ่งทางร้านก็ใส่กล่องมาให้อย่างสวยเลย ขนาดกำลังพอดีกับ 2 ชิ้นด้วย


หลังจากชิมตอนร้อนๆ แป้งกรอบหอมอร่อยมากๆ แถมใส้ก็ร้อนลวกปาก ได้ใจมากๆ

แต่แค่พอทิ้งให้มันเย็นลง นั่นแหละครับ จบเกมส์เลย แป้งที่ลักษณะคล้ายแป้งพายเหนียวสูสีกับ Mandarin Oriental เลย ส่วนตัวใส้นอกจากความหวานมันที่ยังคงอยู่ ก็ได้กลิ่นคาวๆ ของไข่มาเพิ่ม ลักษณะใส้นี่ผมว่าเหมือนเอาทาร์ตไข่แดงและทาร์ตไข่ขาวมารวมกันแล้วหารสอง แล้วเติมมันกับเติมหวานลงไป ,, ชิมตอนเย็นๆ แล้วแป้งกับใส้นี่ดูไม่ค่อยเข้ากันเลย



ทาร์ตไข่จาก KFC หาซื้อง่าย แต่อย่าปล่อยให้ทาร์ตไข่ท่านเย็นเป็นอันขาด
ที่มาไล่ล่าทาร์ตไข่ในครั้งนี้
ถ้าเทียบกับขนาด (ความสูง) ตั้งแต่เล็กไปใหญ่แล้ว Mandarin Oriental (ซ้ายสุด), BreadTalk, KFC, Kanom และ Saint Etoile (สูงสุด) ส่วนราคาก็คงเป็น Kanom ที่แพงสุดที่ชิ้นละ 40 บาท, ต่อมาก็เป็น Mandarin Oriental ราคา 35 บาท, BreadTalk และ Saint Etoile เท่ากันที่ 28 บาท และถูกสุดคือ KFC ที่ 25 บาท (แถมซื้อเยอะๆ ถูกลงอีก)

ถ้าให้เทียบว่าร้านไหนอร่อยเลยนี่ตอบยากนะ เพราะแต่ละร้านมีจุดเด่นของมันเอง มีข้อดีข้อเสียต่างๆ กัน ส่วนตัวผมชอบทาร์ตไข่แดงจาก Kanom ที่สุด ส่วนนึงมันติดรสชาติมาตั้งแต่สมัยกินครั้งแรกๆ แล้วมันอร่อย, ส่วนแม่ผมชอบ BreadTalk มากสุด เพราะผมเก็บข้ามวันถึงค่อยเอาให้แม่กิน (จากการเดินทาง) ซึ่งขณะนั้นมันเย็นหมดแล้ว ทำให้ทาร์ตที่เป็นแป้งพายจะออกแนวเหนียวมาก ,, แต่ที่ผมว่าแนวและแปลกที่สุดคือ Mandarin Oriental ที่จะมีกลิ่นเฉพาะตัว

วันนี้สนุกมากๆ กับการไล่ล่าทาร์ตไข่ตามที่ต่างๆ และชิมทาร์ตไข่หมดทั้งหกชิ้น เลี่ยนไปเลยทั้งวัน แถมพลังงานพุ่งกระฉูด ,, ใครสนใจก็ลองไปชิมตามรอยได้ครับ
อื้อฮือออ ทำกรูหิวเลยนะหมอ
เห็นแล้ว . . . อยากกินทาร์ตใข่ผัวเมียอันเลื่องชื่อแห่งมาเก๊า Magaret vs. Lord stow กันเลยทีเดียวคร้าบ
สุดยอดดดด
นาวเกลียดพี่ตง
ชอบของร้าน kanom แม๊กส์ครับ
น่าทานมากๆ
I used to eat all this. Agree with all ur comments but the saint etouill one. If you try Yamasaki egg tart which is the same brand but maybe not the same level. Same price 28 baht, I got very dry but oilly sweet egg tart. The filling is just like chinese steamming egg but more dry. Very terrible I can’t eat more than 2 bites of it.
By the way the magao’s one is sweet I love egg tart at joo-hai the most !!
ซักวันจะไปมาเก๊าเพื่อกินทาร์ตไข่นี่แหละ
ตามมาจากไหนไม่รู้ แอบเห็นพื่อนรีทวีตมา
แนะนำว่า ยังมีที่ร้าน HONGMIN กับ ตลาดสามย่าน(ชื่ออะไรไม่รู้) ด้วยค่ะ
อยากเห็นรีวิว เพราะชอบเหมือนกัน
ส่วนตัว ชอบของร้าน kanom ค่ะ ^^
อ้วนสุดๆเลยนะครับนั่น แต่เห็นแล้วอยากกินทาร์ตไข่แดงร้าน Kanom สุดๆ เลยคับ
โอ้ว แม่ จ้าวววว
ดูบล็อกนี้แล้วเอียนทาร์ตไป 2 ปีเลย
เพื่อนไปกินที่มาเก๊ามาบอกอร่อยมาก กลับมาไม่อยากกิน kanom อีกเลย อยากลองชิมมั่งแฮะ แต่เราชอบของ kfc นะ หวานดี ^^
ปล ขนมร้าน breadtalk ส่ขนใหญ่ไม่ค่อยมีอะไรอร่อยอะ เคยกินคำนึงแล้วต้องทิ้งเลยทีเดียว
ไม่แปลกใจกับหุ่นหมอเลยอะ
แต่ก็จะติดตามการรีวิวต่อไปเรื่อยๆ เอิ้กๆ
ป.ล. รอรีวิวอาหาร+ขนม จากเชียงใหม่อยู่เน้ออออ
จะตามไปลองกินของ Mandarin Oriental ไปซื้อได้ที่ไหนนะ
ซื้อได้ที่ Mandarin Oriental Shop ,, มีสาขาที่ Paragon และ Emporium ครับ ,, สะดวกที่ไหนลองหาดูได้ตามอัธยาศัย
Bread talk ไม่อร่อย KFC ต้องกินร้อนๆ Kanom อร่อยแม้ไม่ร้อน
ส่วนออเร็นเต็นไม่เคยกินแหะ แต่พวกแซนวิช กับไอศกรีมอร่อยค่ะ
I was stalling on twitter trying to find something to cure my boredom – and KABOOM – somebody I follow tweeted this post. Now, I am not quite as bored. Thanks for posting good material. – Frisbee
อืม..น่ากิงงงง
ผมเป็นทาสไข่ครับ
หิวเบยยยยยยยย
แป้งทารต์ไข่ของยามาซากิและเบรดทอลค์จะออกแนวคล้ายแป้งคุ้กกี้ครับ แต่แป้งทารต์ยี่ห้ออื่นๆเป็นแป้งพายการผลิตและส่วนผสมต่างกันครับ จะถามว่าอร่อยก็ต้องถามว่าอร่อยแบบเอเซียหรืออร่อยแบบยุโรปเมกาเค้า เพราะคำตอบอาจจะแตกต่างครับ ^^’
พี่ครับ ผมอยากจะถามหน่อยครับว่า ที่หาดใหญ่นั้นมีร้านขายทาร์ตไข่มั้ย ถ้ามีอยู่แถวไหนครับ
ไม่รู้จริงๆ ฮะ ,, ยังไม่เคยไปหาดใหญ่เลย ;____;
ว้าว… ได้ความรู้มากเลยค่ะ
อยากให้มาชิมของที่ลำปางมั่ง เป็นสูตรฮ่องกง
ไม่ค่อยหวานมากค่ะ เข้าไปดูได้ที่ http://www.facebook.com/lampangtartkai
감사합니다!
맛있다 !
อืม … เป็นคนเคยไปอยู่ HK มาหลายปี ชอบกินมากเหมือนกัน มาไทก็ยังไม่มีร้านไหน อย. เท่าร้านขนมเลย
ได้คำตอบแล้วนะ ว่ากลิ่นอะไรจากทาร์ตไข่ของโอเร็นเต็ล จมูกเทพนะเทอออ
อิอิ จริงๆ ลองๆ ค่อยๆ กินจะพอจับได้นะ
ทาร์ตไข่ที่อยากแนะนำมากเลย
คือทาร์ตไข่ Eggcellent tart Thailand คะ
เพิ่งมาชอบการกิน tart จากร้านนี้เลย
เนื้อทาร์ตมานพอดี. เนื้อนุ่มลิ้น. แป้งบางกรอบ. ชิ้นละ 29 บาท
ร้านประจำอยู่ที่ตลาดวังหลัง
วังหลัง food center ติด รพ.ศิริราชเลย
ถ้าไปกทม. จะไปลองนะครับ