ร้านนี้คือร้านในตำนานร้านนึงของผม (ไม่เกี่ยวกับคนอื่น) คือมันมีที่มาน่ะครับ…
จริงๆ ต้องยอมรับว่าร้านนี้ผมรู้จักโดยบังเอิญ สมัยตามตามล่า tonkatsu
ตอนนั้นผมตั้งใจจะไปกินร้าน Katsumasa ที่อยู่ชั้นล่างของตึกที่ร้าน Tan อยู่ (ซึ่งตอนนี้ร้านดังกล่าวปิดกิจการและกลายเป็นออฟฟิสไปแล้ว OMG!! ) สมัยนั้นผมยังไม่บ้าเนื้อย่างมากเหมือนตอนนี้ แถมสมัยนั้นเบี้ยน้อยหอยน้อย จะกินอะไรทีต้องคิดดีๆ (ได้ข่าวว่าตอนนี้เงินเดือนก็เท่าเดิม -_-!! ) แต่ผ่านมาเห็นร้าน Tan แล้วน่ากินมากๆ ตั้งเป้าว่าสักวันต้องมากินให้ได้ ลิ้นมันต้องเทพแน่ๆ
จิตนาการว่า ตอนนั้นผมก็ยืนอยู่หน้าร้าน Katsumasa ที่ปิดไปแล้ว ,, เอาใบหน้าเล็กๆ ของผมประจันกับป้ายร้าน Tan สีเหลืองขนาดใหญ่ และหมายว่าสักวันผมต้องมากินให้ได้!!!

ซึ่งจริงๆ ผมก็แอบเข้าใจผิดนิดนึงด้วย เพราะคำว่า Tan นั้น หากเทียบเป็นส่วนของวัวก็หมายความว่าลิ้น คิดมาตลอดว่าร้านนี้ต้องมีลิ้นระดับโคตรเทพแม่เจ้าอยู่แน่นอน,, แต่อักษร Tan ของร้านจริงๆ มันสะกดว่า 炭 ที่แปลว่าเตาถ่าน/ถ่านหินอะ ,, สรุปคือ มันพ้องเสียงกันน่ะครับ TT TT (แปลว่าผมเข้าใจผิดสินะ -_-a)
และวันนี้ ผมก็ได้มากินแล้ว Tan Yakiniku
ตำแหน่งละรายละเอียดร้านเบื้องต้น
ร้านนี้อยู่ในเวิ้งของโรงแรม Grand Tower Inn ย่านทองหล่อครับ คือในพื้นที่ของโรงแรมจะมีตึก 2 ชั้นสีขาวแยกต่างหากออกมาจากตัวอาคาร ใครมากินที่นี่แอบเอารถมาจอดพื้นที่ของโรงแรมได้ครับ

ส่วนการเดินทางมาโรงแรมก็ไม่ยากครับ ,, ส่วนตัวผมแนะนำว่าหลังจากลง BTS ทองหล่อให้เดินเข้าซอยทองหล่อมาประมาณ 50 เมตร ก่อนถึงร้าน Bekku จะเห็นทางเข้าโรงแรมทางซ้ายมือ เป็นทางเข้าใหญ่ชัดเจน แต่จริงๆ จะมีทางเข้าเล็กๆ จากทาง BTS เลย ใกล้กว่าแต่จะสังเกตยากและแคบแค่พอมอเตอร์ไซค์ 2 คันสวนกันได้
View Tan Yakiniku in a larger map
ร้านของเราอยู่ชั้น 2 ของตึกนะครับ ขึ้นบันไดมาหน่อยนึงก็จะถึงหน้าร้านครับ ลูกค้าส่วนมากเป็นลูกค้าญี่ปุ่น ไม่ก็ลูกค้าขาประจำครับ เห็นบรรยากาศพนักงานคุยกับลูกค้าประจำแล้วดูน่าสนุกดี ,, ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 16.30-23.30 น. ของทุกวันครับ ส่วนตัวแนะนำโทรจองที่นั่งที่ 027143503 ครับ

พอดีวันที่ผมไปเป็นวันที่ร้านไฟดับเป็นระยะๆ ระบบปรับอากาศและดูดควันทำงานได้ไม่สมบูรณ์ครับ เลยจะมีควันเยอะหน่อยๆ ภาพอาจไม่เนียนมาก แต่น้องๆ เด็กเสิร์ฟก็น่ารักดีครับ พยายามพัดควันให้ ^^
บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร
บนโต๊ะอาหารเท่าที่สังเกตแรกๆ ก็มีเครื่องปรุงต่างๆ ,, กับชุดถ้วยชามและผ้าสีฟ้าครับ


ผ้าสีฟ้าที่วางอยู่เค้าให้เอามาเป็นผ้ากันเปื้อนนะครับ โดยการเอามาผูกที่คอ
(แต่สุดท้าย น้ำจิ้มน้ำมันมันก็หกลงกางเกงผมอยู่ดีอะ -_-a)

จากนั้นน้องๆ พนักงานก็เอาเมนูมาให้ครับ ย้ำว่าที่นี่ไม่ใช่บุฟเฟต์นะครับ แต่เป็นแบบสั่งเป็นจานๆ เปิดสำรวจดูราคาถือว่าแพงระดับนึงเลยทีเดียว จานนึงก็หลายร้อยอยู่ แถมยังมี Vat บวกเพิ่มให้ตกใจเล่นๆ

ตกลงปลงใจที่จะกิน ก็เริ่มมาก็เอาชาเขียวเย็นมาครับ เติมได้เรื่อยๆ กลิ่นหอมอร่อยดีครับ ส่วนตัวผมชอบชาเขียวแบบนี้นะ กินแล้วสดชื่นดี
มาคู่กับน้ำจิ้มแดงครับ แม้จะมาพร้อมๆ กัน แต่น้ำจิ้มนี้เอามากินกับเนื้อย่างนะครับ ไม่เกี่ยวกับชาเขียวแต่อย่างไร


เมื่ออาหารค่อยทยอยมากัน
จากนั้นก็เริ่มที่จานแรกครับ จำชื่อภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ว่ามันเรียกว่าอะไร อารมณ์เป็นประมาณยำลิ้นวัวหั่นซอยขนาดพอดีๆ แบบสดๆ มีไข่ดิบวางข้างบน ผักเครื่องเคียงเรียงด้านข้างๆ รูปลักษณ์ดูน่ากินใช้ได้เลย

วิธีกินก็ไม่ยากครับ ก็คลุกเอาทุกอย่างเคล้าเข้าด้วยกันครับ ซัดให้นัวร์ คลุกให้เนียน จากนั้นก็คีบกินเป็นคำๆ ครับ พยายามให้มันมีทั้งลิ้นและผักด้วย กรุ้มกริ่มๆ อร่อยดีแบบไม่เคยคิดมาก่อนว่ากินได้ด้วย ลองชิมดูแล้วไม่มีกลิ่นคาวของลิ้นเลยแฮะ แปลกดีๆ อร่อยๆ ชอบๆ ,,, ถ้าได้เบียร์ซักแก้วน่าจะแหล่ม


หมดจากลิ้นสดๆ ก็เป็นเนื้อครับ จำไม่ผิดเป็นเนื้อ Serloin คุณภาพดี หั่นมาหนาพอดีๆ เอาไปลุยไฟและผสมกับน้ำจิ้มแดงๆ แล้วอร่อยดีครับ แฮ่ๆๆๆ


ก่อนที่จะลุยเนื้อจานถัดๆ ไป ขอคั่นอารมณ์ด้วยข้าวกระเทียม ข้าวที่นี่เค้าผัดมาแบบจริงจังมากๆ ให้อารมณ์กินข้าวผัดที่มีกลิ่นกระเทียมมากกว่า รสชาติกลางๆ นะ ผมชอบข้าวกระเทียมแบบกระเทียมจริงจังมากกว่า

เนื้อจานถัดไปก็เป็นเนื้อลูกเต๋าครับ อันนี้อร่อยนะ ผมชอบ ,, เพิ่งชอบเนื้อลูกเต๋าเพราะพักหลังๆ รู้สึกว่ามันพอคำดี แถมเวลาย่าง ข้างนอกมันจะสุกได้ที่ แต่ข้างในมันจะดิบหวานๆ อยู่ เคี้ยวแล้วกร้วบๆๆ อร่อยดี

อีกซักแป๊บน้องพนักงานเด็กเสิร์ฟก็เอาน้ำจิ้มมาให้อีกอัน เค้าบอกว่า อันนี้เอามาจิ้มกับเนื้อลูกเต๋า
ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะ มีกลิ่นสมุนไพรเยอะไปหน่อย ไม่ค่อยเนียนอะ

เมนูต่างๆ ยังไม่หมดนะครับ
จากนั้นมาต่อด้วยลิ้นครับ แม้ว่าผมจะเคยเข้าใจผิดว่า Tan ที่นี่แปลว่าลิ้น แต่ที่นี่เมนูลิ้นเยอะและลิ้นก็มีคุณภาพดีมากๆ กินแล้วแทบไม่มีกลิ่นคาวของลิ้นเลย กัดลิ้นแล้วก็กรุบกรับดีมากๆ คริๆ


โดยเฉพาะลิ้นอย่างดีหั่นลูกเต๋านี่ผมว่าโอมากๆ ประทับใจสุดๆ
ผมแอบกินดิบๆ มาก้อนนึง ต้องยอมรับว่าเหนียวและแน่นๆ แต่ที่ผมแปลกใจคือที่ร้านทำให้ลิ้นที่ปกติจะมีกลิ่นคาวในตัวนิดหายไปได้ เคี้ยวไปนี่เพลินเลย ถ้ามันกรอบหรือกินง่ายกว่านี้ผมคงซัดเปล่าๆ ไปแล้ว ฮาๆๆๆๆ
พร้อมแล้วก็เอาไปย่างไฟกันเลยครับ!!!


พอย่างลิ้นโอเคแล้ว เค้าก็มีน้ำจิ้มมาอีกครับ เป็นน้ำจิ้มน้ำมะนาวครับ
แรกๆ ก็งงว่ามันจะเข้าเหรอ แต่พอจิ้มแล้วก็รู้สึกว่ารสของลิ้นมันเด่นขึ้น และความกรุบมันเพิ่มขึ้นเมื่อลองเทียบกับน้ำจิ้มแดง

แถมระหว่างซัดโฮกๆ กันอยู่น้องเค้าก็เอาชุดผักสลัด มาพร้อมกับซ้อสอะไรซักอย่าง
เค้าแนะนำว่าเอามากินกับเนื้อ แล้วราดน้ำจิ้มอันใหม่ลงไป ,, ก็อร่อยดีนะ ไม่เลี่ยนดี


หลังจากซัดอิ่ม ทางร้านก็ยังมีผลไม้ปิดท้าย
เป็นแตงโมสีแดงเย็นๆ ที่สำคัญหวานมากยังกะไปแช่น้ำตาลมายังไงงั้น แต่อร่อยนะ ปิดมื้อได้ดี

ที่มากินวันนี้
พูดตรงๆ ว่าลิ้นอร่อยมากครับ คนชอบลิ้นวัวไม่ควรพลาดครับสำหรับร้านนี้ มีความสุขจริงๆ (แม่อาจเศร้าตอนจ่ายตังก็ตาม) ส่วนเนื้อก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีครับ ,, ส่วนการบริการผมว่าก็โอเคเลยนะ สำหรับขาจรอย่างผมก็ถือว่าบริการดีมาก ยิ่งเห็นลูกค้าประจำนี่บริการเป็นพิเศษเลย น่า

ไว้เก็บตังได้เยอะๆ แล้วจะมาดูดลิ้นบ่อยๆ 😀
อยากดูดลิ้น
หิวกลางดึก อยากกลับไปกินอีกเลย
ไม่ทราบว่าเฉลี่ยต่อคน 500 บาท เอาอยู่ป่ะครับ
ถ้ามาเยอะๆ น่าจะพอไหวนะ
แต่วันที่ผมไปไปกันสองคนเองอะ แถมกินเยอะด้วย เลยตกไปแปดร้อย T T
หิวโว้ยครับ
ไม่เคยกินลิ้นวัว เลยยังไม่ซาบซึ้ง
ไม่เคยกินเหมือนกัน แต่ตอนนี้ซักอยากกินละเนี่ย – -‘
อร่อยมากคับ ไปกินมาแล้ว
รสชาติเหมือนที่ญี่ปุ่นเลย
ขั้นเทพจริงๆๆ
ถ้าชอบแนวนี้แนะนำที่ กิวกิวเต้ อยู่แถวรัชดา ตรงข้าม Emanuel มั้งจำไม่ได้เหมือนกัน ลองถาม google ดู
ไปกินดีกว่าาาา