หลังจากที่ตะลุยกินร้านอาหารทั่วๆ ไปมามาก วันนี้ผมก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศมากินตามโรงแรมกันบ้าง
ซึ่งว่าไปจริงๆ อาหารโรงแรมเป็นอะไรที่ยังมีรีวิวไม่มากเท่าไหร่ด้วย
เอาเป็นว่า วันนี้เริ่มจากโรงแรมที่ถือว่าสูงที่สุดในประเทศไทยก่อนเลยแล้วกันครับ
นั่นคือ ตึกใบหยก ครับ โดยวันนี้ขอเอาใบหยก 1 ก่อนละกันนะครับ

ใบหยกขณะที่ผมเป็นเด็กๆ
หลายๆ ครั้งประสบการณ์ในเด็กมักเป็นรากฐานความคิดตอนเราโตขึ้น หลายอย่างที่เราคุ้นชินในตอนเด็กๆ มันก็จะติดมาเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นก็คือ ตึกใบหยกครับ ,, จากเด็กบ้านนอกอย่างผม ตึกใบหยกเป็นอะไรที่หรูมากๆ ยิ่งช่วงนั้น (จำไม่ผิด) มันเป็นตึกที่สูงที่สุดในเอเชีย ซึ่งในความทรงจำของผม จำได้ว่าเคยขึ้นมาที่นี่ครั้งนึง มากินข้าวหรือมาเยี่ยมญาติอะไรประมาณนี้แหละ ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ขึ้นมาอีกเลย ส่วนนึงน่าจะเพราะฝังใจกับความหรูและแพงในอดีต
จนวันนี้ผมได้มีโอกาสขึ้นมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง โดยวันนี้ได้มาทานที่ห้องอาหารชื่อ Sky Lounge ครับ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 43 ของตึกใบหยก 1 ครับ โดยการจะมาห้องอาหาร Sky Lounge ก็ไม่ยากครับ โดยการเดินมาใต้ตึกใบหยก 1 ซึ่งจะมีพนักงานคอยรอต้อนรับเราอยู่ เราก็บอกน้องเค้าไปเลยว่าเราจะมาทานอาหารที่ห้องอาหารชั้น 43 เค้าก็จะบริการลิฟท์ให้เราอย่างดี ซึ่งถ้าได้ทำการจองไว้ก่อนก็จะได้รับการบริการที่สะดวกขึ้นเป็นทวีคูณ

ห้องอาหารวิวสวยยามเที่ยง
ห้องอาหาร Sky Lounge ที่นี่เปิดบริการแบ่งเป็นสามช่วงครับ คือช่วงเช้า (ส่วนมากเป็นแขกที่มาพักมาทานอาหารเช้ามากกว่า ไม่ค่อยมีแขกข้างนอกเท่าไหร่) ,ช่วงเที่ยง (ตั้งแต่ 11.00-14.00 น.) ,และช่วงเย็น (ตั้งแต่ 17.30-22.30 น.) ซึ่งสิ่งที่ห้องอาหารนี้แตกต่างจากร้านอาหารทั่วๆ ไป คือการให้บริการนี่แหละครับ คือ หลังจากที่ลิฟท์เปิดออกมา ก็มีพนักงานมาต้อนรับและพาไปที่โต๊ะอย่างดี ซึ่งบรรยากาศของห้องอาหารก็ออกแนวโทนสีฟ้าโปร่งสบาย สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพฯ ได้รอบทิศ


ลืมบอกไปว่าห้องอาหารมีสองฝั่งนะครับ ซึ่งแต่ละฝั่งก็รองรับคนได้ประมาณ 40-50 คนสบายๆ ซึ่งถ้ามีคนเยอะๆ โดยเฉพาะตอนเย็น เค้าก็จะให้บริการทั้ง 2 ฝั่งเลย รองรับคนได้ประมาณ 100 คนได้อยู่ ซึ่งผมว่าถ้าจะมาจัดเลี้ยงอะไรเป็นหมู่คณะก็น่าสนใจใช่เล่น

นอกจากสองฝั่งของห้องอาหารแล้ว ทางโรงแรมยังให้บริการเปิดระเบียงให้เราชมวิวและเก็บบรรยากาศ ถ่ายภาพวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ จากบนตึกใบหยกได้ด้วย ซึ่งผมประทับใจมากๆ แนะนำว่าใครชอบถ่ายรูปก็อย่าลืมพกเลนส์ wide ไปด้วย



มาตักอาหารกันเถอะครับ
เมนูอาหารช่วงเที่ยงจะเป็นบุฟเฟต์ทั่วๆ ไปครับ จะตักอะไรก็ได้เยอะแค่ไหนก็ได้ ทั้งอาหารไทยและอาหารเทศ เป็นแบบเดินตักเอง เท่าที่นับดูก็มีกับข้าวประมาณ 8-10 อย่าง รวมทั้งมีสลัดและขนมหวานบริการด้วย ถ้าจำไม่ผิดราคาหัวละ 190 บาทครับ


ส่วนตัวเท่าที่ชิมรสชาติอาหารโดยรวมก็อร่อยพอใช้ ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ออกจะอร่อยด้วยซ้ำ วันที่ผมไปมีแกงมัสมั่นไก่อร่อยครับ เนื้อไก่นุ่ม ไม่ติดกระดูก น้ำแกงละเมียดลิ้น กับอีกอย่างที่ผมชอบคือโซนผลไม้ ทั้งแตงโมและสับปะรดฉ่ำน้ำดีมากๆ ในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ ทำให้อาหารอร่อยเป็นทวีคูณ ส่วนตัวผมว่าเหมาะกับการเลี้ยงน้องหรือเลี้ยงกลุ่มใหญ่ๆ เพราะราคาไม่แพงมากในรสชาติอาหารโอเคๆ แบบนี้ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ และค่อนข้างเป็นส่วนตัวระดับนึงหากคนเยอะพอ


จัดหนักต่อด้วยบุฟเฟต์กลางคืน
หลังจากผ่านช่วงเที่ยงไป เราก็มาต่อด้วยบุฟเฟต์เย็นครับ ซึ่งราคาจะอัพแพงขึ้น จำไม่ผิดราคา 530 บาท แต่มันจะชอบมีโปรโมชันซ่อนไว้ทาง facebook คือถ้าโทรมาจอง หรือจะใช้ twitter, facebook มาจอง (ไฮโซมาก) ก่อนก็จะได้ลดราคาลงเหลือ 380 ซึ่งโปรโมชันมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกันดูได้
ซึ่งสังเกตว่าตอนเย็นจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเยอะมากจนต้องเปิดให้บริการทั้ง 2 ฝั่ง เท่าที่ประเมินแล้วโต๊ะเค้าก็มีการจองหรือมีคนนั่งเกือบครบทุกตัว แต่ไม่ใช่แค่คนเยอะเฉยๆ นะเมนูอาหารก็ยังเพิ่มขึ้นด้วยเป็นเท่าตัวและหลากหลายมากขึ้น มีทั้งอาหารทะเลสดและพร้อมปรุงให้, หม้อสุกี้ที่เราสามารถไปเลือกของสดต่างๆ มาทำเองกันบนโต๊ะได้, อาหารกับข้าวแบบตักๆ ซึ่งรสชาติเหลือล้ำกว่าตอนเที่ยง, เนื้อสเต๊กและปิ้งย่างแบบต่างๆ นี่ยังไม่นับรวมถึงเหล่าของหวานต่างๆ,, ทั้งหมดเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ครับ เยอะมากจริงๆ แค่กินให้ครบก็คงเหนื่อยแล้ว






แต่สิ่งที่ผมว่าเจ๋งสุดที่ห้องอาหารนี้คือวิวของกรุงเทพฯ ครับ ,, มุมรอบทิศของกรุงเทพฯ เหมือนเป็น wallpaper มีชีวิตและเคลื่อนไหวตลอดเวลาของห้องอาหารแห่งนี้ เวลาเปลี่ยน มุมแสงเปลี่ยน อารมณ์เปลี่ยน ก็ให้บรรยากาศการกินอาหารที่ต่างกัน รวมทั้งสามารถออกไปชมวิวข้างนอกตัวตึกได้ด้วย

โอ๊ย อยากไปกิน ขอเบอร์ติดต่อที
ถ้าสนใจหรืออยากมา ก็อย่างที่แนะนำไว้ครับ คือโทรมาก่อน อาจสอบถามรายละเอียดหรือเมนูพิเศษในแต่ละวันเพิ่มเติม, โทรมาจองที่ในตำแหน่งและมุมที่ดีกว่า ไม่ต้องมานั่งลุ้นรถติดประตูน้ำ, รวมทั้งการโทรจองก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษลดราคา หรือจะ surprise วันเกิดก่อนก็ได้ รวมทั้งหากจองมา การบริการก็จะแอบดีขึ้นนิดนึง ที่ผมชอบคือการเรียกเชิลูกค้าตั้งแต่หน้าปากประตูโรงแรง กดลิฟท์ให้พอขึ้นไปก็เชิญเราไปที่โต๊ะ บริการได้ดีมากๆ ครับ
ส่วนการติดต่อก็มีหลายช่องทางครับ ทั้ง
- ทาง twitter ที่ @baiyokesuite สำหรับอาคารใบหยก 1 และ @baiyokesky สำหรับอาคารใบหยก 2
- ทาง facebook ที่ หน้า Fanpage ของทางโรงแรมครับ
- ทาง website ของโรงแรมที่ http://www.baiyokehotel.com/ ครับ
- ทางโทรศัพท์ ที่ 02-2557755 ครับ
ถ้าสนใจก็ลองไปดูได้ครับ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง
น่ากินมาก แทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว
ขอบคุณพี่ตงสำหรับข้อมูลนะคะ 🙂
บรรยายได้เห็นภาพเลยค่ะ ขอบคุณมาก
อยากพาแม่ไป อยากไปดูวิวด้วย
ตอนกลางวันช็อปปิ้งที่ประตูน้ำ ตอนค่ำๆ ก็ขึ้นมากินที่นี่ โห เพอร์เฟคเลยเนาะ อิอิ
เปียโนนี่ ถ้าเราเล่นเป็น แล้วอยากจะเซอร์ไฟรส์คนที่มากับเรา
เค้าให้เราเล่นได้ไหมคะ
(ถามยังกะเล่นเป็นน้อ 55+)
ถามได้ ก็ถามไปที่ @baiyokesuite ดิ บอกว่าพี่แนะนำมา 😀
สวย… และน่ากิน 😀
เค้าอ่านได้แล้ว เย่ๆๆๆ
โอ้ น่าสนๆ ผมเคยไปแต่ ใบหยกสกาย ได้ขึ้นไปดูวิวแบบหมุนๆ ด้วยครับ
เย็นนี้ได้ไปกินละ ^-^