“พี่เม่นกับพี่จี้จะแต่งงานกัน”
ทุกคนเคยไปงานแต่งงานใช่ไหมครับ
บรรยากาศเดิมๆ โรงแรม พิธีการ ขนบธรรมเนียม…
แต่ครั้งนี้ มันต่าง
มันไม่ใช่งานแต่งงานที่จัดในโรงแรมหรูๆ ใจกลางเมืองหลวง
แต่นี่มันจัดกันที่ปาย อำเภอเล็กๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เป็นเมืองในฝันของหลายๆ คน รวมทั้งบ่าวสาวด้วย

ผมรับทราบข่าวนี้มาประมาณเดือนกว่าๆ แล้ว แต่ชีวิตยังมีอะไรให้คิดอีกเยอะ
“โห แต่งไกลโคตร ที่ปายแหนะ”
“จะได้ไปไหมเนี่ยยยย อยู่ระหว่างสอบด้วยนะ”
“จัดปลายเดือน ตังหมด”
“ไปไงเนี่ย เอาอะไรไปมั่ง เสื้อผ้าก็ไม่มี”
แม้จะมีเรื่องราวและข้อโต้แย้งในหัวผมมากมาย
แต่ผมก็ใช้เวลา 1 วินาที (หลังรู้ว่ามันไม่ทับกับวันสอบ) ในการตัดสินใจว่า…
“ไป”
และการไปปายครั้งนี้ มันได้อะไรมากกว่างานแต่งงานทั่วๆ ไป
มันงานแต่งงานเป็นสิ่งที่ทำให้ผมพบกับนิยามใหม่ในความรัก-การแต่งงาน-และการใช้ชีวิตคู่เลยทีเดียว
และความรักของเพื่อนๆ ใน social network ที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดมาก่อน

และพี่เม่นและพี่จี้ก็คงไม่ได้เห็นภาพเหล่านี้มาก่อนด้วย
พร้อมออกเดินทาง
คณะ iHear, TigerIdea และผองเพื่อน ทั้ง @lingjaidee, @sikkha ได้นับการนัดหมายจาก @ipattt ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะตลก iHear ในการพาเหล่าลูกทัวร์ไปงานครั้งนี้ โดยการนัดหมายอยู่ที่ย่านสุทธิสาร โดยเราเดินทางไปปายครั้งนี้ด้วยรถตู้สองคันครับ
อยากบอกว่าของเยอะมากๆ เพราะมีทั้ง Bose L1 สองตัว, คีย์บอร์ดพี่พัชร, กีตาร์ของพี่แอล, กาฮองและเครื่องเคาะของพี่นัท, บองโกของผม, ฟลุ๊ตของพี่ฉัตร, ทรัมเป็ตของพี่ปลา, และสัมภาระอันมหาศาลของทุกๆ คน

โชคดี ที่ยังไม่มีกลองชุดของพี่เกียวปิ ไม่งั้นเราคงต้องมีรถตู้อีกคันแน่ๆ
ของพร้อม คนพร้อม เวลาพร้อม ก็ไปเลยสิครับ
พักจริงจังครั้งแรก ที่เถิน
จริงๆ ระหว่างเดินทาง อยากแอบเม้าท์ว่าพักบ่อยมาก แทบทุกจังหวัดเลย
แรกๆ คิดว่าเสียเวลา แต่คิดไปคิดมา อืมมมม คนขับก็ไม่ง่วงด้วยนะ


แต่เราพักจริงจังครั้งแรกที่ อ.เถิน จ.ลำปาง ครับ
ในอากาศหนาวที่รอต้อนรับเรามาแต่ไกล

เหตุที่พักจริงจัง เพราะพี่ปลาทองของเรามีความจำเป็นต้องใช้ internet ในการส่งงาน
โชคดีที่เราเจอ internet ในปั้มปตท. แถมแรงดีอีกด้วย อิอิ

จริงๆ ผมงงมากๆ ตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไมที่ปลาทองถึงมาอยู่บนรถตู้หว่า ไหนว่าจะไปฮอลแลนด์ปลายกุมภา
ก็เพิ่งรู้จากพี่แบงค์เหมือนกันว่า พี่ปลาทำ VISA ไม่ผ่าน การเดินทางเลยต้องเลื่อน
…และได้มางานแต่งที่ปาย (พร้อมกับเอางานมาทำระหว่างทางด้วย)
พี่เม่นมีเพื่อนที่ดี และโชคดีมากๆ จริงๆ
เมื่อมี internet ทุกคนก็ไม่พลาดการใช้ internet ร่วมกันจริงๆ
อืมมมม ช่างดึง Bandwidth กันได้ดีครับ

ทุกคนล้วนแต่มี activity กันมากมาย
มีตั้งแต่คู้รักหวานแหวว ที่แต่ไปแล้ว

และคู่เผ็ดร้อนที่ออกอาวุธกันไม่แพ้ศึกอัศวินดำ

นอกจากพี่ปลาทองแล้ว คุณวิทย์ก็เอางานมาทำด้วย
แอบทำหน้าเครียด เพราะแอบดูแล้วมี twitter ขึ้นเต็มไปหมด

ส่วนพี่ @macroart ก็ทักทายเหล่าสาวก Palringo ไม่ขาดสาย

ส่วนน้องกล้ายืนกอดอกหนาว
น้องครับ แค่ลำปางก็หนาวแล้วเหรอครับ -_-!!

ส่วนผมเหรอครับ
ก็ยังไม่พลาดเรื่องกินครับ
หนาวๆ แบบนี้ ตามปั้มน้ำมันแบบนี้ คงไม่มีอะไรดีเท่ามาม่าร้อนๆ

ซดกันซี๊ดซ้าดดดดด
แบบว่าหิวๆ มาทั้งคืน ได้มาม่าควันหอมมาลงท้องซักหน่อย แจ่มๆๆๆ

น้องกล้าผู้เหน็บหนาวก็มาซดมาม่าด้วย
มันเมพพพพพพพพพพ นะไอ้น้อง

ระหว่างทางไปปาย
เมื่อระหว่างทางเราก็แวะเชียงใหม่ครับ ไปรับเดียร์ ไปหาข้าวเที่ยงกินก่อนที่จะเดินทางต่องานทุกคนเสร็จ+เริ่มอิ่มท้อง เราก็เดินทางต่อครับ

จากนั้นก็กดยาวเลยครับ จนถึงระหว่างทางจากแม่มาลัยไปปาย
ผมไม่รู้ว่าที่ไหน แต่ผมตื่นมาก็เจอรถตู้คู่ใจจอดอยู่

กำลังง่วงๆ ปนกับมึนๆ ก็เห็นพี่นัทกำลังเป็นพี่ตูนบอดี้สแลม หลังจากซัด M150 เข้าไป
“พี่ตูนไหงอ้วนงี้อะ แล้วพี่ตูนมางานแต่งพี่เม่นด้วยเหรอวะ”

และแล้วพี่นัทและน้องกล้าก็ถูกตำรวจเรียกเข้าพบ
เป็นอันเดือดร้อนชาวคณะในการนำตัวกลับมา
แต่อย่างน้อยพี่แกก็ได้วิชาจากพี่ๆ ตชด. ในการใช้ GT200 แบบประยุกต์

สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
พร้อมแล้วก็ลุยให้ครบ 762 โค้งเลยละกัน
เมื่อถึงปาย ก็ไปพริบตา
พริบตาคือรีสอร์ทครับ
เป็นสถานที่จัดงานแต่งช่วงเช้า
พี่พัชร พี่เม่นและฝ่ายต่างๆ ประชุมกันอย่างเครียด เครื่องเสียงวางตรงนั้น ทรัมเป็ตเป่าตรงนี้

ส่วนพี่นัทก็สอนผมในการทำ GT200 ครับ
เวอร์ชันน้ำผึ้งผสมมะนาว ใช้ตรวจหาวัตถุความหื่นสูงครับ ยิ่งหลอดยกสูงมาก ยิ่งหื่นมาก

หลังจากประชุมเสร็จ ความเครียดอะไรต่างๆ ก็คลายลง
พี่พัชรกับพี่แบงค์ก็รำลึกความหลังบอยแบนด์วงแรกของไทย แต่ถูกแบนไปก่อนออกเทป

ออกเดินทางต่อดีกว่าครับ
เก็บภาพระหว่างทาง
ระหว่างทางไปที่พัก
ทุกคนตอนนี้เหนื่อยเมื่อยลัา
แต่ก็ยังมีอารมณ์สุนทรีย์ในการออกมาถ่ายรูปเล่นอยู่
ที่หมายของเราคือ Coffee in Love โดยเริ่มที่บ้านสีเหลืองสวย

แต่ละคนเริ่มจับคู่ครับ
เริ่มที่คู่ผมกับเดียร์ก่อน

แต่ผมเริ่มไม่เข้าใจความเมาของพี่นัท หรืออาจเป็นเพราะความเผ็ดร้อน
เพราะพยายามเดิมไปถ่ายรูปกันคนอื่นๆ

จากนั้นก็ไปถ่ายกับพี่พัชรอีก เพราะพี่ปุ๋ยมาไล่ไป

ซึ่งจังหวะนี้ปูเป้ก็มาฉวยโอกาสถ่ายรูปด้วย
พี่นัทหนีไป สุดท้ายก็ต้องเป็นพี่พัชรที่ต้องถ่ายด้วย lol
หวังว่าพี่บอลจะไม่ว่ากันนะครับ

มีพี่ๆ หลายคนไปซื้อกาแฟ แต่บอกว่าไม่อร่อย
แต่ผมชิมโกโก้ก็โอเคนะ

ขออีกรูป
แล้วเดินทางต่อเถอะครับ

มาถึงที่พักกันแล้ว
รถตู้ตรงแล่นเข้าเมือง
จอดรถแทบจะกลางเมือง
ส่งผู้คนจำนวนมากมาที่พักที่แรก
ที่ “ลิ ลู” สนใจไปดูต่อได้ที่ http://www.liluhotel.com ละกัน

แรกเห็นเรียกว่าตกหลุมรักที่นี่เลย
ตกแต่งสวยงามมากๆ แนวโทนสีเทาๆ ม่วงๆ คละกับบรรยากาศแห่งความเป็บปายอยู่

เข้ามาถึงพนักงานทุกคนก็น่ารักมากๆๆ
พูดจาสุภาพ แถมมีน้ำมาเสิร์ฟถึงที่ เหมาะกับที่เราเพิ่งผ่าไอร้อนมาจริงๆ
แถมน้ำที่มาเสิร์ฟเป็นน้ำสับปะรดแช่เย็นอย่างดี สุดยอดดดด

แอบเข้าไปดูในห้องด้วย ห้องสะอาด น่าอยู่มากๆ
เตียงไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป และเตียงยาวพอสำหรับชายร่างโย่งแบบพี่พัชรด้วย

ของที่ใช้ต่างๆ ออกแนวธรรมชาติผสานกับความสะดวกสบายแบบ Modern
ยิ่งแบบใกล้กับถนนคนเดินและตัวเมืองด้วยนี่มันดีจริงๆ

ห้องน้ำก็เป็นอะไรที่หลายๆ คนที่พักที่นี่ประทับใจ
นอกเหนือจากความสะอาดและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแล้ว
ฝักบัวยังเป็นแบบ Rain shower ที่ให้บรรยากาศเหมือนไปเล่นน้ำกลางสายฝน

ที่พักของผมล่ะ?
ส่วนผมและเพื่อนๆ อีกกลุ่มต้องไปพักไกลกว่า เพราะที่ลิลูเต็มแล้ว
ผมไปอยู่โรงแรมเล็กๆ ชื่อ “อกาเป้ เดอ ปาย” ครับ
อยู่ไกลจากในเมือง แต่ก็ได้ความสงบ และราคาที่ไม่แพงมาก
ถ้าลองอ่าน blog ผมแล้วสนใจ ลองโทรไปได้ครับ ที่คุณชัย เบอร์ 0890002516

ส่วนตัวผมชอบที่นี่นะ
บรรยากาศแนว Homestay สงบ ร่มรื่น เป็นส่วนตัว แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก
เหมาะมากแบบมาอยู่เป็นส่วนตัว สงบๆ
แถมข้างๆ ก็มีลำธารเล็กๆ ไหลผ่านด้วย สามารถลงไปเล่นได้ น้ำเย็นดีๆ

บ้านพักมีสองแบบสองราคา
ผมเลือกห้องแนววิลลาครับ เจ๋งดีมากๆ

ขอพักก่อน เดี๋ยวไปลุยเย็นต่อ ตามกำหนดการของพี่พัชร
นั่นคือ “พักผ่อนตามอัธยาศัย”
เย้ๆๆ ไปเที่ยวกัน
ถนนคนเดินยามเย็น
แม้ต้นกำเนิดของถนนคนเดินจะมาจากเชียงใหม่อันเป็นบ้านเกิดผม
แต่ถนนคนเดินที่ปายก็มีเสน่ห์ที่น่าหลงไหล ที่ไม่อาจมีที่ไหนลอกเลียนแบบได้
มันเป็นความสมดุลระหว่างศิลปะ-การท่องเที่ยว-การค้าขาย-ความสงบ ในบรรยากาศเย็นสบาย

ร้านรวงก็มีเยอะแยะครับ
แต่ที่เด่นๆ คือพวกร้านขาย Postcard และของฝากเยอะแยะมากๆๆๆๆ
แต่ละร้านน่ารักมากๆ ของน่าซื้อสุดๆ แถมแต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง
ก็ซื้อมันเลยทุกร้าน

และแล้วผมก็เจอของกินที่น่าสนใจครับ
“โรตีชีส”

ลองแอบชิมแล้วอร่อยดีนะครับ (เดียร์สั่งใส่ไข่ด้วย)
เค้ายัดชีสให้ทั้งแผ่นเลย เข้มข้นดี อร่อยดีครับ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

เหลือบไปด้านข้างก็เห็นสตอเบอร์รี่ลูกโตมากๆๆๆ
กำลังคลุกกับเกลือและน้ำตาลอยู่
ก็ขอซักถ้วยนะ

เอ่อ ตอนนี้สองมือของเดียร์ก็เต็มไปด้วยของกิน
แต่เราก็ยังควานหาของกินกันต่อไป

และแล้วโรตีและสตอเบอร์รี่ก็บังคับให้เราต้องหาน้ำกินครับ
ก็จัดการน้ำกระบอกแถวๆ นั้นแหละ น่าสนใจดี

หิวน้ำจังเลย
ร้านนี้มีให้เลือกทั้งแบบร้อนและเย็น แถมมีรีฟิลด้วย

นอกจากนั้นยังมีไข่ป่าม (อารมณ์ไข่เจียวปิ้งบนใบตอง)
โรยหน้าไข่มดของปูเป้ด้วย
อร่อยดีนะครับ

จากนั้น iHear และชมรมแม่บ้านก็ถ่ายรูปไม่ขาดสาย
โดยเฉพาะที่ธ.กสิกรไทยสาขาปายน่ารักมากๆๆ

รูปคู่ใครมาถ่ายก็น่ารักมากๆๆ
ยิ่งพี่ปุ๋ยกับพี่แบงค์นี่น่ารักเป็นทวีคูณ

อีกอย่างระหว่างเดินไปเรื่อยๆ เราก็พบว่ามีศิลปินจำนวนมากอยู่ที่นี่
เรียกว่าแทบจะทุกแขนง ทั้งวาดรูป งานปั้น รวมทั้งนักดนตรีด้วย
ทำให้ผมเข้าใจเลยว่า ศิลปะไร้พรมแดนเป็นอย่างไร การพูดคุยด้วยภาษาศิลป์เป็นอย่างไร

ไม่น่าเชื่อว่าขนาดเป็นนายตำรวจก็ยังเป็นศิลปิน ยืนเล่นกีตาร์และร้องเพลงอยู่ เก๋มากๆ
สมเป็นเมืองศิลปินแท้ๆ

หลังจากซักประวัติพบว่า แกมาเล่นดนตรีเพื่อหาเงินบริจาคเพื่อสร้างอุโบสถวัดหัวนา
โอวววว ใจบุญยิ่ง
เหล่า iHear เราจึงไม่พลาดที่จะเข้าไปแจมซะ ทั้งเพลงไทยเพลงเทศ
อยากบอกว่าสนุกมากๆๆ มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศมาดูเรามากมาย
ทำให้บางครั้งเราก็รู้สึกเข้าใจหลินปิงที่มีคนมามุงเยอะๆ มากขึ้น

เล่นไปไม่ดูเวลา เลิกก็เอาซะเกือบห้าทุ่ม เฮือกกกกกกก
คิดที่จะเลิกเล่นร้านรวงต่างๆ ก็เริ่มปิดไป
ความฝันในการซื้อของต่างๆ และการหาของกินของผมก็เปรียบเหมือนเปลวเทียนที่ใกล้ดับ
แต่แล้วผมก็เหลือไปเห็นข้าวซอยยูนาน

หลังจากชิมแล้ว
พบว่าข้าวซอยยูนานจะใส่แกงที่ไม่มีกะทิ
อารมณ์เอาเส้นข้าวซอยราดน้ำเงี้ยวประมาณนั้น เพราะกลิ่นเครื่องแกงมันคล้ายๆ ด้วยแหละ

ไม่อิ่มครับ
เห็นปากซอยมีขายผัดไทยอีก
เลยซัดผัดไทยปายต่ออีกจาน
พบว่ารสชาติกลางๆ แต่เค้าผัดได้หอมดี ไม่มันจนเกินไป

หมดเวลาของสองวันแรกสำหรับ Part1
ขอตัวไปพักก่อน เดี๋ยวหน้าเค้าตอนไปงานวันพรุ่งนี้จะโทรมอ่า
เค้าพักไกลด้วย ที่อกาเป้น่ะ ตั้ง 5 โลจากในตัวเมืองได้ ขี่มอไซฝ่าลมหนาวอีก เฮือกกกกกก
แล้วเตรียมติดตาม Part2 ต่อได้ครับ
เห้อออ อบอุ่นจัง ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงเน้อ …. ทำไมไปเป๊บเดียวความทรงจำ มันล้นขนาดเน้
โห เห็นแล้วน้ำตาจะไหล อยากไปแจมด้วย
ไอเฮียร์ยังฮาไม่เปลี่ยนแปลง!!
(อ้อ ยังกินราวกับพายุด้วย!!)
สนุกดีเนอะ ไว้ไปงานตงมั่ง อิอิ ;P
ว่าง ๆ มานั่งหลังกระบะพี่อีกนะน้อง หุหุ 😛
เอาอีกๆๆๆๆ
สุดยอดมาก……เป็นเรื่องราวแห่งฟามทรงจำไปอีกนานแสนนานของชาว #iHear ตลอดไป
สุโค่ยครับ bookmark ไว้แระ
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้ไปด้วยเลยอะ
เหมือนได้ไปด้วยเลย เขียนสนุกมาก ชอบๆ
อ่านแล้ว รู้สึกอยู่ในทีม #ihear เลย 😀
หนาวๆๆๆ
น่ากิน จังเลยพี่แอน หิวเลย
*-*
ตง พี่ไม่นึกว่าจะขยันเขียนขนาดนี้ -_-” Bandwidth TiGER ตรูเดี้ยงแน่ๆ ขาดทุนๆ
เป็นคนเขียนบล็อกได้สนุกจริงๆครับ 🙂
อื้ม เป็นทริปที่วุ่นจริงๆ สำหรับผม สนุกจริงๆ ครับ อิอิ ฝากบล็อกผมด้วยน้าาาา ของผมจะเป็นเรื่องทรัมเป็ตในงานแต่งงานครับ
เข้ามาเห็นช้าไปหน่อย น่าสนุกนะครับ มาปายอีกนะครับ
I fancy your blog, awesome post as always 🙂 really inspiring! thank you.